ชลบุรี 2 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุเพลิงไหม้อาคารพุทธบารมี “บ้านสุขาวดี” หนึ่งในแลนด์มาร์กเมืองพัทยา ขณะที่เพลิงไหม้ทำให้ตัวอาคารเสียหายอย่างหนัก จนยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบจุดที่เป็นต้นเพลิงได้
ภายในตัวอาคาร ถูกเพลิงเผาวอดทั้งหมด เหลือเพียงเถ้าถ่าน และเศษซากปรักหักพังของวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายใน กระจกทุกบานแตกกระจายเกลื่อนพื้น และยังพบควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นหลายจุด เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืน ส่วนโครงสร้างอาคารได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะหลังคาที่แอ่นลงมาถึงพื้น ประกอบกับตัวอาคารที่ถูกความร้อนสะสมเป็นเวลานานกว่า 15 ชั่วโมง ทำให้มีความเสี่ยงที่จะถล่มลงมาได้ตลอดเวลา โยธาธิการและผังเมือง จ.ชลบุรี ระบุว่า อาคารหลังนี้ไม่สามารถซ่อมแซมได้ ต้องรื้อทิ้งอย่างเดียว
ส่วนบริเวณชั้นใต้ดินก็เสียหายหนักเช่นกัน เนื่องจากมีวัสดุที่เป็นเชื้อไฟได้อย่างดีวางรวมอยู่จำนวนมาก ทั้งเก้าอี้ชุดรับแขก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเพลิงจะสงบลงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจความเสียหายโดยละเอียดได้ รวมถึงยังไม่สามารถเข้าไปถึงจุดที่ถูกระบุว่าเป็นต้นเพลิง เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ วันนี้จึงทำได้เพียงสำรวจบริเวณรอบนอกอาคารเท่านั้น
อาคารพุทธบารมี เป็นส่วนหนึ่งของบ้านสุขวดี มีเจ้าของคือนายปัญญา โชติเทวัญ เจ้าสัวใหญ่แห่งสหฟาร์ม ผู้ส่งออกผลิตผลทางการเกษตรรายใหญ่ของไทย เริ่มก่อสร้างปี 2546 ใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี ตกแต่งภายในอย่างงดงามตระการตาในเวลาเพียง 30 วัน ด้วยแรงงานคนกว่า 2,700 ชีวิต ห้องโถงขนาดใหญ่เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ รวมถึงเป็นสถานที่ต้อนรับ และจัดงานระดับประเทศมากมาย อีกทั้งยังปูด้วยพรมขนสัตว์ขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
ตัวแทนบ้านสุขาวดี เผยต้นเพลิงเกิดที่บริเวณเวทีฝั่งซ้ายมือ ก่อนลุกลามไปยังจุดอื่นๆ อย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุมูลค่าความเสียหายได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างตรวจสอบทั้งในส่วนของอาคาร เฟอร์นิเจอร์ และวัสดุตกแต่งภายในทั้งหมด ซึ่งจะต้องมีการประชุมและเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม บ้านสุขาวดีได้ทำประกันภัยไว้กับ 3 บริษัท ครอบคลุมอาคารทั้งหมด 24 อาคาร มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท
พรุ่งนี้บริษัทประกันภัยทั้ง 3 ราย จะเข้าหารือถึงรายละเอียดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนกับตัวแทนบ้านสุขาวดีอีกครั้ง ก่อนเข้าให้ปากคำกับตำรวจ สภ.บางละมุง ขณะที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเพลิงไหม้เข้าให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว และมีการคาดการณ์ว่าจะสามารถเข้าไปในตัวอาคารได้ในสัปดาห์หน้า. – สำนักข่าวไทย