สปสช. 2 ก.ค.-สปสช.แจงกรณีประชาชนร้องเรียนถูก รพ.ใน จ.ปราจีนบุรี ปฏิเสธฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 มีประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงแห่ฉีดวัคซีนจำนวนมาก ส่งผลวัคซีนจำกัดไม่เพียงพอ เตรียมสำรวจความต้องการวัคซีนเพิ่มเติม เร่งกระจายจากพื้นที่วัคซีนเพียงพอต่อไป
นพ.พีระมน นิงสานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 6 ระยอง กล่าวชี้แจงกรณีที่มีผู้ใช้นาม ประชาชนปราจีนบุรี (กลุ่มเสี่ยง) อายุ 65 ปี ร้องเรียนผ่านสื่อกรณีโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ปฏิเสธการให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามนโยบายของรัฐ เนื่องจากไม่มีชื่อในบัญชีผู้รับวัคซีน ว่า การให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นสิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ กองทุนบัตรทอง ซึ่งแต่ละปีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะจัดหาวัคซีนตามจำนวนงบประมาณที่ได้รับ ในปีงบ 2563 จัดหาได้ จำนวน 4 ล้านโด๊ส เพื่อให้บริการประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง โดยกระจายไปยัง 13 เขต เพื่อให้กับหน่วยบริการในพื้นที่เพื่อบริการประชาชน
ทั้งนี้ แต่ละปีวัคซีนที่ทางเขตได้รับการจัดสรรมีจำนวนเพียงพอต่อการให้บริการประชาชน แต่ในปีนี้เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ส่งผลให้มีประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ขอรับบริการฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ทำให้การให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ของหน่วยบริการจำกัด ประกอบกับหน่วยบริการได้จัดบริการการฉีดในรูปแบบ New Normal เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ขั้นตอนการรับบริการเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้นนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีได้ปรับเกลี่ยวัคซีนจากพื้นที่ที่มีจำนวนวัคซีนเพียงพอ ไปให้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว และ สปสช.จะเร่งประสานไปยังหน่วยบริการในพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลความต้องการรับวัคซีน และจัดสรรลงไปเพิ่มเติมจากโคต้าปกติต่อไป .-สำนักข่าวไทย