รัฐสภา 1 ก.ค.- นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ถึงความจำเป็นการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ในหลายส่วนเป็นงบฯ ผูกพัน เพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ในภารกิจดูแลป้องกันประเทศ
เมื่อเวลาประมาณ 16.10 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงถึงการจัดสรรงบประมาณของกองทัพ ว่า จากการตรวจสอบกับสำนักงบประมาณทุกอย่างยังเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทุกประการ ซึ่งเป็นงบผูกพันข้ามปีในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการผลิต การผ่อนชำระเนื่องจากมีราคาแพง ประเทศมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอาวุธยุทธโธปกรณ์ ให้เพียงพอ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการสนับสนุนงบในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ ทำให้ปัจจุบันมีอาวุธยุทโธปกรณ์เก่า ประมาณ 80% และเพื่อทดแทนให้ ไม่ให้ต้องเสียงบประมาณในการซ่อมบำรุง กองทัพมีภารกิจที่ต้องดูแลป้องกันอธิปไตยในการดูแลชายแดน ซึ่งจะต้องเตรียมความพร้อม ทางด้านกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้ แม้จะไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้นก็ตาม สิ่งสำคัญคือวันนี้เทคโนโลยีต่าง ๆ มีความก้าวหน้า ซึ่งอาวุธ ยุทธโธปกรณ์ที่ไม่มีความทันสมัยอาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคตได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภารกิจป้องกันชายแดนจะต้องใช้กำลังพลจำนวนหลายหมื่นคนในการดูแลพื้นที่ ทำให้การแก้ปัญหาชายแดนสามารถยุติได้พอสมควร จากภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลเข้าใจถึงความห่วงใยจากสมาชิก ในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะดำเนินการทุกอย่าง ๆ ดีที่สุด ซึ่งอยากให้ทุกคนมีความเข้าใจ และให้ห่วงใยถึงลูกหลานที่เป็นทหารด้วย ที่จะต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย
ด้านพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจง ว่า ปัจจุบันมีภัยคุกคามรูปแบบใหม่จำนวนมาก ทั้งเรื่องยาเสพติด ภัยพิบัติต่างๆ กระทรวงกลาโหม และ กองทัพ ทราบดีในสถานการณ์ในอนาคต ที่กองทัพต้องเข้าไปดูแลช่วยเหลือประชาชน จึงต้องปรับโครงสร้างกองทัพให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และจากสถานการณ์โควิด-19 กองทัพก็สนับสนุนบุคลากรด้านการแพทย์ จัดชุดแพทย์ไปอยู่ในทุกพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งโรงแรม และโรงพยาบาล ขณะเดียวกันกองทัพได้จัดการกำลังที่มีอยู่ให้พร้อมที่จะปฏิบัติการหากมีสถานการณ์จำเป็นเร่งด่วน งบประมาณต่าง ๆ จึงมีความจำเป็นต้องใช้ในการปรับปรุงอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงอากาศยานซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนานหลายสิบปีแล้ว ดังนั้นในปี 2564 กองทัพจึงได้ปรับลดงบประมาณลงจากปี 2563 แต่เรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งเป็นงบประมาณผูกพันที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้.-สำนักข่าวไทย