กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – MRT ปรับมาตรการในขบวนรถไฟฟ้า รองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มสูงขึ้น โดยจะควบคุมความหนาแน่นภายในขบวนรถไม่เกินร้อยละ 70
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ได้แจ้ง การปรับมาตรการเว้นระยะห่างในขบวนรถไฟฟ้า รองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มสูงขึ้น ตามนโยบายของกรมการขนส่งทางราง โดยยังคงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ตามที่กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม ได้เสนอศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ขอปลดล็อกการเว้นที่นั่งและที่ยืนในระบบขนส่งทางราง โดยให้ยกเว้นการเว้นที่นั่ง และการเว้นระยะห่างการยืนอย่างน้อย 1 เมตร ภายในขบวนรถเพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารช่วงเปิดเทอมที่เพิ่มสูงขึ้น และยังคงขอความร่วมมือผู้โดยสารให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดนั้น
เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายของกรมการขนส่งทางราง รถไฟฟ้า MRT จึงได้ผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่างในขบวนรถโดยจะควบคุมความหนาแน่นภายในขบวนรถไม่เกินร้อยละ 70 กำหนดจุดยืนเว้นระยะและหันหน้าตามทิศทางที่แนะนำภายในขบวนรถ ยกเลิกการเว้นที่นั่งโดยสามารถนั่งติดกันได้ งดการพูดคุยขณะอยู่ในขบวนรถ และผู้โดยสารต้องสแกนคิวอาร์โค้ด “ไทยชนะ” เช็คอินเมื่อเข้าขบวนรถและเช็คเอาท์ก่อนลงจากรถไฟฟ้าขบวนนั้นๆ นอกจากนี้ยังคงขอความร่วมมือผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยผู้โดยสารทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนเข้าสถานีและตลอดเวลาที่ใช้บริการ ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าระบบรถไฟฟ้า โดยอุณภูมิต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลที่มีบริการในทุกสถานีทั้งก่อนและหลังการใช้บริการ เว้นระยะระหว่างบุคคล (Social Distancing) อย่างน้อย 1 เมตรขณะใช้บริการในสถานี . – สำนักข่าวไทย