สงขลา 28 มิ.ย. – ตำรวจสงขลาจับเมียสั่งฆ่าสามีเก่า ที่ข่มขู่จะเปิดเผยเรื่องพัวพันยาเสพติด เร่งติดตามจับกุมมือปืนอีก 2 คนที่ยังหลบหนี
กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายสันติ หรือ สอแหละ หีมเห็ม อายุ 29 ปี เข้าที่ศีรษะเสียชีวิตคาที่และพบยาบ้า 2,000 เม็ด ตกอยู่ที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 สั่งการให้ชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวน จ.สงขลา เร่งติดตามจับตัวคนร้าย ล่าสุดศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุแล้ว 3 ราย คือ
1. น.ส.เจนจิรา หรือเจน บุญณะ อายุ 27 ปีข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดไตร่ตรองไว้ก่อน โดยเป็นผู้ใช้ จ้างวาน
2.นายศุภณัฐ หรือซัน หวังยีเสน ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วน
และ 3.นายกัมปนาทหรือหลี หีมหมัน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วน
ทั้งนี้ ตำรวจได้จับกุม น.ส.เจนจิรา หรือเจน ซึ่งเป็นผู้จ้างวานฆ่านายสันติ เบื้องต้น น.ส.เจนจิรา ยังให้การปฏิเสธ แต่พยานหลักฐานของตำรวจมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานสามารถเอาผิดได้ จากการสืบสวนทราบว่า น.ส.เจนจิรา โกรธเคืองนายสันติ เนื่องจากนายสันติซึ่งเป็นสามีเก่าและมีลูกด้วยกัน 2 คน มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับ น.ส.เจน เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน และได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสงขลา เนื่องจากโดนฟันที่แขน เย็บกว่า 150 เข็ม และล่าสุดนายสันติ ผู้เสียชีวิต ได้เรียกร้องเงินจำนวน 700,000 บาท และรถยนต์ 1 คัน เพื่อแลกกับการเลิกรากันโดยมีการข่มขู่ว่า ถ้าไม่ยอมจะแจ้งความ น.ส.เจนจิรา ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ตำรวจระบุว่า น.ส.เจนจิรา ได้ว่าจ้างคนร้าย 2 คน เป็นเงิน 200,000 บาท ฆ่านายสันติ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ยึดเงินส่วนหนึ่งที่ใช้ในการว่าจ้างไว้เป็นหลักฐาน และก่อนเกิดเหตุมือปืนได้โทรศัพท์นัดแนะให้นายสันติผู้เสียชีวิตออกมารับยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด ในจุดเกิดเหตุ พร้อมกับยิงจนเสียชีวิต ซึ่งผู้ต้องหาอีก 2 คน คาดว่าหลบหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว
ตำรวจยังเปิดเผยอีกว่า น.ส.เจนจิรา และนายสันติ มีส่วนเกี่ยวพันกับการค้ายาเสพติดในพื้นที่รายใหญ่ และมีผู้มาติดต่อขอล้มคดีเป็นเงินนับล้านบาท ตำรวจกำลังสอบสวนในทางลับและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด. – สำนักข่าวไทย