กทม.26 มิ.ย.- ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับเมียนมาบังคับขืนใจลูกสาวมานานนับ 4 ปี หลอกไปทำงานต่างชาติแต่บังคับค้ากาม และขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับกุม 3 คดี คดีแรกผลงาน กองกำกับการ 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน จับกุมนายหม่อง เอ อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมา ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย บังคับขืนใจลูกสาวของตน โดยก่อเหตุตั้งแต่ปี 2557 ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 4 ปี ตั้งแต่บุตรสาวอายุเพียง 10 ปี ลูกสาวพยายามบอกแม่แต่ไม่เชื่อ ต้องทนทุกข์กับการถูกพ่อบังคับขืนใจ กระทั่งปี 2561 ทนไม่ไหวตัดสินใจหนีไปอยู่กับป้าและเล่าความจริงให้ฟัง จึงพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีนายหม่อง เอ ไว้ที่ สภ.สัตหีบ กระทั่งศาลอนุมัติหมายจับในข้อหา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยใช้อาวุธ แต่นายหม่อง เอ หลบหนีหมายจับไปทำงานอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร จากการใช้ระบบไบโอเมทริกซ์ ทำให้ทราบข้อมูลนายหม่อง เอ จึงวางแผนจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ สอบสวนเอาผิด
คดีที่ 2 กองกับกับการปฎิบัติการอาชญากรรมพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จับกุมนางสาวนริศศราพร อายุ 28 ปี และนางสาวอรัญญา อายุ 25 ปี นายหน้าแก๊งค้ามนุษย์ หลอกลวงหญิงไทยไปทำงานนวดแผนโบราณที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พอไปถึงกลับบังคับให้ค้าประเวณี และยึดหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายหลบหนี ที่สุดแล้วสามารถหลบหนีมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชฑูตไทย ณ เมืองอาบูดาบี จากนั้นมูลนิธิพิทักษ์สตรีนำผู้เสียหายมาร้องเรียนที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อติดตามจับกุมนายหน้าคนไทยที่หลอกลวงเหยื่อ จึงทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่านางสาวนริศศราพร เป็นนายหน้าในเมืองไทย ส่วนนางสาวอรัญญา เป็นนายหน้าอยู่ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง ในข้อหา ร่วมกันค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา และหน่วงเหนี่ยวกักขัง ก่อนไปจับกุมตัวนางสาวนริศศราพร ที่จังหวัดสงขลา ส่วนนางสาวอรัญญา ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะเดินทางกลับมา ช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์
สุดท้ายผลงาน กองกับกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน จับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ขณะนำแรงงานต่างด้าวโดยสารรถกระบะดัดแปลงต่อเติม ได้บนถนนวัฒนานคร-ตาพระยา ตำบลซ่องกุ่ม อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว พบแรงงานชาวกัมพูชาอยู่หลังกระบะท้าย 15 คน มีนายศรัญญู อายุ 33 ปี เป็นคนขับ และรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายฟิว ชาวกัมพูชา ให้นำแรงงานกัมพูชา จากชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บ้านแก้วเพชรพลอย ตำบลตาพระยา อำเภอตาพระยา ไปส่งที่กรุงเทพฯ ได้ค่าจ้างหัวละ 1,500 บาท ส่วนแรงงานที่ลักลอบเข้าเมือง หลังจากตำรวจท้องที่ดำเนินคดี ได้นำตัวมากักที่ สถานที่ควบคุมของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นเวลา 15 วัน หากไม่พบเชื้อโควิด-19 จะนำตัวฝากขังไว้ที่ห้องควบคุมรวมกับผู้ต้องหาชาวต่างชาติรายอื่น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ต้องหาด้วยกัน ก่อนผลักดันกลับประเทศต่อไป.-สำนักข่าวไทย