กรุงเทพฯ 26 มิ.ย. – กรมชลฯ เร่งซ่อมเครื่องสูบน้ำสถานีพานทอง หลังขยะอุดจนชำรุด ทำให้การสูบน้ำเติมอ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรีชะงัก ล่าสุดซ่อมเสร็จแล้ว 2 เครื่อง
นายสุริยพล นุชอนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 กล่าวถึงกรณีชาวบ้านอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำของสถานีสูบน้ำอำเภอพานทอง 5 เครื่อง ๆ ละ 40 ล้านบาท ซึ่งติดตั้งมาได้ 1 ปี ชำรุดเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้ นั้น ได้ส่งนักประดาน้ำลงไปสำรวจตรวจสอบบ่อสูบน้ำในสถานีสูบน้ำคลองชลประทานพานทอง ตำบลบางนาง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี พบขยะและสิ่งแปลกปลอมที่ลอยมาตามน้ำหลุดลอดตะแกรงกันขยะและถูกดูดเข้าไปในเครื่องสูบน้ำ ทำให้เครื่องสูบน้ำติดขัดเสียหาย จึงประสานไปยังบริษัท ไทยพิพัฒน์ฮาร์ดแวร์ จำกัด เข้ามาดำเนินการซ่อมแซม ซึ่งอยู่ในระยะเวลาประกันความชำรุดบกพร่อง 1 ปี
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบปรากฏว่าขยะที่ถูกดูดเข้ามาในเครื่องสูบน้ำ ทำให้อุปกรณ์ชิ้นส่วนภายในของเครื่องสูบน้ำแต่ละเครื่องชำรุดแตกต่างกัน ปัจจุบันซ่อมเครื่องสูบน้ำให้ใช้การได้แล้ว 2 เครื่อง ส่วนอีก 3 เครื่องต้องรออุปกรณ์ที่จะนำมาเปลี่ยน โดยสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งผู้จำหน่ายแจ้งว่าการขนส่งล่าช้าเนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่จะดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคม ขณะนี้กำจัดเศษขยะและสิ่งแปลกปลอมที่หลุดเข้ามาออกให้หมดและติดตั้งตะแกรงกันขยะเพิ่มเติม เพื่อป้องกันขยะหลุดลอด อีกทั้งสามารถกรองขยะได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นายสุริยพล กล่าวต่อว่า ได้เร่งรัดการซ่อมแซมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่อีอีซีมีการขยายตัวของประชากรอย่างมาก ทำให้เกิดความเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ที่ผ่านมากรมชลประทานพื้นที่ได้สูบผันน้ำจากจากคลองพระองค์ไชยานุชิตมาลงยังอ่างเก็บน้ำบางพระ ในอัตราการสูงสุด 5.50 ลบ.ม./วินาที ด้วยการใช้เครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง และสำรองไว้อีก 1 เครื่อง โดยในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมาได้สูบน้ำไปแล้วประมาณ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้นจะเร่งรัดการซ่อมแซมให้เสร็จเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะในช่วงที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะเกิดภาวะฝนทิ้งถึงกลางเดือนกรกฎาคมนี้.-สำนักข่าวไทย