นายกฯระบุจะตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ เมื่อเวลาเหมาะสม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 25 มิ.ย. –นายกฯ ระบุทำผิดกฎหมายมั่นคงจะอ้างไม่รู้กฎหมายไม่ได้ จะตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ เมื่อเวลาเหมาะสม ขอนักศึกษามุ่งเรียน จะได้มีงานทำ อย่าเสียสมองกับเรื่องไม่สำคัญ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เกี่ยวกับการดำเนินคดีความมั่นคง ว่า ทุกคนรู้กฎหมาย จะบอกว่าไม่รู้ไม่ทราบไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียก หากไม่มาต้องออกหมายจับ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นคดีเก่าหรือคดีใหม่ ทุกคดีต้องเป็นแบบนี้ ทุกคนรู้กฎหมายดีอยู่แล้ว รู้ว่าทำผิดหรือทำถูก ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม ขอให้ตำรวจทำตามหน้าที่ 

“ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย และรู้อยู่แล้วว่าผิดกฎหมายอะไร ยกเว้นแต่จะฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อให้เกิดความวุ่นวายต่าง ๆ หรือไม่ ไม่แน่ใจ แต่คงไม่ถึงโทษตรงนั้น โดยจะดูว่าทำผิดกฏมายอะไรก็จะต้องถูกดำเนินคดี อย่าทำให้มีปัญหาว่าเป็นกฎหมายปกติหรือมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ผิดตรงไหนก็ว่าไปตรงนั้น ทุกคนรู้กฎหมายอยู่แล้ว ส่วนเมื่อมีคดีจะมอบตัวหรือไม่  ทุกคนที่มีคดีรู้อยู่แล้วจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่วานนี้ (24 มิ.ย.) ว่า มีข้อเสนอจากประชาชน ซึ่งเรื่องใดที่ดูแลได้ พร้อมดูแล ขณะนี้เรื่องความขัดแย้งเอาไว้ก่อน ประเทศชาติกำลังมีปัญเศรษฐกิจ สิ่งสำคัญที่ทำให้ไทยอยู่ได้คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนต้องร่วมมือกัน ต่างคนต่างไม่สร้างภาระให้เจ้าหน้าที่ เพราะประชาชนจะเดือดร้อนจากการกระทำที่ทำให้เกิดความไม่สงบ

“อยากจะขอร้อง เพราะผมไปว่าใคร ขู่ใครไม่ได้ กฎหมายจะทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้อง สงบสุข ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมาย ขอทุกคนอย่าก้าวล่วง เป็นหน้าที่ของใครก็ต้องดำเนินการ ถ้าไม่ทำก็ละเว้น เพราะมีกฎหมายหลายมาตราระบุไว้อยู่แล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนและสื่อมวลชน หวังในความร่วมมือ ที่ตนพูดไปทั้งหมดสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบ หากมีเวลาจะลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนอีก ขณะนี้ยังมีภารกิจอีกมาก และต้องติดตามการคลายล็อกที่ยังหนักอกหนักใจ เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ยังไม่มีใครรู้ เรื่องต่าง ๆ เหมือนนายกรัฐมนตรีรู้และจะตัดสินใจเมื่อทุกอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ วันนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ประชาชน และส่วนราชการ ช่วยกันดูแลบ้านเมืองให้สงบสุขต่อไป 


“เป็นเรื่องธรรมดาที่คน 67 ล้านคนเห็นไม่ตรงกัน แต่อย่าไปละเมิดหรือก้าวล่วงหรือทำผิดกฎหมาย ผมขอแค่นี้ รักษาชาติ ช่วยชาติได้แล้ว ซึ่งจะครอบคลุมคำว่า รวมไทยสร้างชาติ ฝากถึงนักศึกษาให้ตั้งมั่นเรื่องการศึกษา สิ่งที่สำคัญคือต้องมีงานทำ ให้สอดคล้องกับโลกยุคใหม่ เรียนเก่งต้องทำงานเป็น อย่าไปเสียสมองกับเรื่องที่ยังไม่สำคัญกับตัวนักศึกษา ขอฝากทุกคน” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]