กรุงเทพฯ 24 มิ.ย.-“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ย้ำเศรษฐกิจสร้างไทย แม้เปลี่ยนรัฐมนตรีคนใหม่หรือเป็นคนเดิม
ต้องเดินหน้า พัฒนาเศรษฐกิจในประเทศต่อไป
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้กับผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)พร้อมกันทั่วประเทศ
ผ่านโครงการเศรษฐกิจพอเพียงสร้างไทย ว่า หลังจากรัฐบาลแก้ปัญหาแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปมากแล้ว
ยอมรับว่าจะผ่อนคลายทุกอย่าง หวั่นเกรงว่าไวรัสจะกลับมาระบาดอีก หากไม่เปิด ประชาชนจะไม่มีกิน
จึงต้องผ่อนคลายอย่างระมัดระวัง รัฐบาลต้องทุ่มเทการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ
เปลี่ยนแปลงผ่านโครงการเศรษฐกิจพอเพียงสร้างไทย
หลังจากที่ผ่านมาส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ พัฒนาการส่งออก
จากนี้ไปต้องหันมาพัฒนาทุ่มเทการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ
“คนไทยหลายล้านคน ย้ายกลับไปอยู่ในต่างจังหวัด
ในช่วงมีปัญหาตกงานจากไวรัสโควิด เมื่อไม่รู้ว่าจะเอาอะไรกิน จึงต้องช่วยเหลือคนกลุ่มนี้
ให้มีอาชีพและไม่ต้องกลับมาอยู่ในเมือง รัฐบาลจึงดึงหน่วยงานรัฐ เอกชน
สถาบันการศึกษา ช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ เมื่อพึ่งพาเศรษฐกิจโลกไม่ได้
นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่เข้ามา การผลิตในประเทศมีปัญหา จึงต้องใช้จังหวะนี้
พัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค แม้จะปรับคณะรัฐมนตรี
คนเดิมอยู่ต่อหรือมีคนใหม่เข้ามาแทน ต้องสานต่อนโยบายนี้ หากทำไม่ได้ ไม่ต้องมาเป็น เพราะขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาการเมือง
แต่เป็นปัญหาทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไข” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวอีกว่า เมื่อทุกฝ่ายพร้อมช่วยเหลือ
จึงต้องร่วมกันสร้างหัวขบวน จึงต้องการให้
ธ.ก.ส.สร้างสมาร์ทฟาร์มเมอร์ขึ้นมา 10,000-20,000 ราย เพื่อชักชวนคนในชุมชนเรียนรู้ ทำตลาดออนไลน์ เปลี่ยนจากอาชีพเกษตร
เป็นผู้บริหารกิจการเกษตร เป็นผู้ประกอบการเกษตร บริการเป็นทั้งการผลิต การตลาด
ไม่ต้องให้พ่อค้ามาตัดราคา เกษตรกรเจรจาได้ไปจนถึงการส่งออก เพื่อทุกเททุกด้านไปสู่ชนบท
ขณะนี้กระทรวงการอุดมศึกษาฯ เตรียมให้นักศึกษา
ออกไปหาข้อมูลพื้นที่และช่วยเหลือชนบท ภาคเอกชนรายใหญ่และหน่วยงานต่าง ๆ
พร้อมเข้ามาช่วยเหลือ เรื่องตลาด การผลิต ธนาคารรัฐ เช่น ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน บสย. พร้อมเข้าไปช่วยเหลือด้านเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ
เครื่องมือทุกอย่าง นโยบายทุกด้านหันไปสู่ชุมชนอย่างเต็มที่ เพื่อร่วมกันพัฒนาด้านขนส่งชุมชน
ท่องเที่ยวชุมชน
“ในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายนนี้
เตรียมเดินทางไปมอบนโยบายให้กับผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)
หลังได้เสนอขอจัดสรรเงินกู้ มาตั้งกองทุนเยียวยาเอสเอ็มอี 300 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือรายย่อย
เพราะนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวแล้ว รวมทั้งยังได้หารือกับผู้บริหารบีโอไอ
เพื่อนำเงินกองทุน 10,000 ล้านบาท ออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการเกษตรเอสเอ็มอี
ในด้านการผลิต เทคโนโลยี การตลาด เพราะหากปีหน้า ปัญหาแพร่ระบาดไวรัสโควิด
ไม่ดีขึ้น สินค้าอาหารจะเป็นสิ่งที่ทั่วโลกต้องการ จึงส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านอาหารของภูมิภาค
เพื่อให้คนไทยมองเห็นโอกาสนี้ เร่งพัฒนาสินค้าอาหารตามความต้องการตลาดโลก”นายสมคิด
กล่าว
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธ.ก.ส. กล่าวว่า คนตกงานกลับไปอยู่ต่างจังหวัด 8-9 ล้านคน
หลังจากปัญหาแพร่ระบาดไวรัสโควิด จากการสำรวจพบว่าส่วนใหญ่เชี่ยวชาญด้านบริการ อาหารและอื่น
ๆ เพื่อต้องการดูแลคนรุ่นใหม่ไฟแรงกลับไปอยู่บ้าน จึงต้องฝึกอบรม เติมความรู้
หาช่องทางตลาด ดูแลคนกลุ่มดังกล่าว หลังจากคณะกรรมการธ.ก.ส. อนุมัติสินเชื่อ
ทั้งการเสริมสร้างความมั่นคงระดับครัวเรือน เพื่อปล่อยสินเชื่อผ่อนปรน การเสริมสร้างความเข้มแข็งระดับชุมชน
และการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก วงเงินสินเชื่อทุกโครงการ 260,000 ล้านบาท
รวมกับเสนอขอจัดสรรเงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ อีกจำนวน 55,000 ล้านบาท
รวมเป็นอัดฉีดเงินสู่ระบบ ผ่าน ธ.ก.ส. 315,000 ล้านบาท เมื่อนำคนรุ่นใหม่ รุ่นเก่า เข้าไปเติมความรู้ผ่านศูนย์เรียนรู้ประจำจังหวัด
กระจายอยู่ 1,200 แห่งทั่วประเทศ
จากนั้นจะเติมสินเชื่อให้ตั้งต้นชีวิต และอุดหนุนผ่านงบประมาณอีกร้อยละ 20 สำหรับบุคคลธรรมดา มั่นใจว่า ช่วยเหลือได้ร้อยละ 10 ของแรงงานตกงาน
8-9 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย