เปิด “ผับ-บาร์-คาราโอเกะ-อาบอบนวด”  1 ก.ค.

ทำเนียบ 24 มิ.ย.- ศบค. เตรียมผ่อนคลาย เปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบ อบ นวด  1 ก.ค.นี้ พร้อมยึดมาตรการหลักของสาธารณสุขและมาตรการเสริมดูแลผู้ใช้บริการ พร้อมลงทะเบียนผ่านแอปฯไทยชนะ ทุกครั้ง เตรียมเปิดให้ต่างชาติบางกลุ่มเดินทางเข้าไทยได้


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้สรุปร่างผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม ที่ยังไม่ได้รับการผ่อนผันในเดือนมิถุนายนอีก 5 กิจการและกิจกรรม ได้แก่ 1 การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา  2ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์   3 สถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ 4  ร้านเกมส์และร้านอินเตอร์เน็ต และ 5สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด โรงน้ำชา  โดยรายละเอียดทั้งหมดจะเสนอให้ ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่พิจารณา และคาดว่าจะสามารถเปิดให้ผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมต่างๆ ได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม

โฆษก ศบค. กล่าวว่า มีประเด็นสำคัญที่ทุกกิจการและกิจกรรมต้องดำเนินการ คือ ให้มีการลงทะเบียนแอปพลิเคชั่นไทยชนะ ก่อนประกาศผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม เพื่อการวางแผน ติดตามของหน่วยงานภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ และทุกกิจการและกิจกรรมต้องจัดให้มีการลงทะเบียนการเข้า-ออกสถานที่และเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชั่น ผู้พิทักษ์ไทยชนะ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในการตรวจประเมินการประกอบกิจการ ส่วนมาตรการคัดกรองไข้ ไอ หอบเหนื่อย จามหรือเป็นหวัด สำหรับพนักงานบริการและผู้ใช้บริการ ให้รายงานหน่วยงานรับผิดชอบ หากพบผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค อีกทั้งให้พัฒนานวัตกรรม เช่นการจองคิวแบบออนไลน์ เพื่อให้บริการรูปแบบใหม่ในระยะยาว นำไปสู่การป้องกันโรค และต้องมีการรายงานผลการตรวจประเมินตามมาตรการควบคุมหลักให้ ศบค.รับทราบ


นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา จะให้เปิดได้ทั้งหมดในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ส่วนห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เปิดดำเนินการหลังเวลา 21.00 น.ได้ ตามความเหมาะสมของพื้นที่หรือการประกอบกิจการ ขณะที่สถานบริการผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ เช่น โรงเบียร์ โรงเหล้า ลานเบียร์ ตามที่ใบอนุญาตประกอบการ  สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกิน 24.00 น. ทุกกรณี มีระยะนั่งและยืน 1 เมตร จำกัดผู้ใช้บริการตามขนาดพื้นที่ มากกว่า 4 ตารางเมตรต่อคน และห้ามร่วมโต๊ะกับกลุ่มอื่น  

นั่งและยืนเป็นกลุ่มได้ไม่เกิน 5 คน งดนั่ง ร้องเพลง เต้น หรือให้มีการเต้นกับลูกค้า งดเต้นนอกพื้นที่โต๊ะหรือที่นั่ง ต้องมีระยะห่างโต๊ะ 2 เมตร หรือมีฉากกั้นสูง 1.5 เมตร และต้องมีระบบระบายอากาศที่ดี มีพื้นที่สูบบุหรี่โดยเฉพาะ ห้ามลูกค้านำสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาบริโภค หลีกเหลี่ยงจำหน่ายเครื่องดื่มรูปแบบเหยือก ถ้วย หรือภาชนะที่ใช้ร่วมกัน  ให้ทุกคนลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ผ่านแอปฯไทยชนะ  งดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกรูปแบบ  และให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดครอบคลุมพื้นที่ร้าน บันทึกข้อมูล 1 เดือน เพื่อกำกับติดตาม 

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนร้านเกมส์และร้านอินเตอร์เน็ต ที่มีอยู่ในพื้นที่ กทม. 2,000 ร้าน และ ต่างจังหวัด 2,000 ร้าน ต้องมีมาตรการ แบ่งเป็น เด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี เข้าใช้บริการได้วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 14.00-20.00 น. วันหยุด  10.00-20.00 น.   อายุ 15-18 ปี ใช้บริการ วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 14.00-22.00 น. วันหยุด  10.00-22.00 น.และอายุ 18 ปีขึ้นไป ใช้บริการได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ต้องมีมาตรการดูแลเรื่องความสะอาดต่างๆ การจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ 4 ตารางเมตรต่อคน  เว้นระยะนั่ง ยืน ทางเดิน 1 เมตร และจำกัดเวลาให้บริการในระบบ 2 ชั่วโมงต่อรอบ เพื่อพักทำความสะอาด 15 นาที และให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดครอบคลุมพื้นที่ร้าน บันทึกข้อมูล 1 เดือน เพื่อกำกับติดตาม 


และสุดท้าย สถานประกอบกิจการ อาบ อบ นวด โรงน้ำชา ที่มีใบอนุญาต ต้องมีมาตรการควบคุมหลักด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้น ขณะอาบน้ำ เว้นระยะนั่งและยืน 1 เมตร ยกเว้นขณะอาบน้ำ ทุกคนต้องลงทะเบียนผ่านแอปฯไทยชนะ  และต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มพนักงานเป็นระยะ พร้อมการเฝ้าระวังโรคอื่นด้วย 

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวถึงการผ่อนคลายการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของชาวต่างชาติ แบ่งเป็น กลุ่มเป้าหมายที่ตอบรับมาตรการ State Quarantine ได้แก่ นักธุรกิจ นักลงทุน 700 คน แรงงานฝีมือ ผู้เชี่ยวชาญ 15,400 คน คนต่างด้าวกรณีเป็นครอบครัวของคนไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในไทย 2,000 คน  ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนนักศึกษา 2,000 คน  และ ผู้ที่เข้ามาทำการรักษาด้านการแพทย์ของไทย หรือ Medical and wellness Tourism 30,000 คน  ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่ต้องใช้มาตรการควบคุมไว้สังเกต ได้แก่ นักธุรกิจ นักลงทุนที่เข้ามาในระยะเวลาสั้น ๆ หรือแขกของรัฐบาล หน่วยงานราชการ ทั้งนี้ต้องมีการตรวจปลอดโควิด-19 ทั้งจากประเทศต้นทางและเมื่อถึงไทย และต้องมีทีมติดตามทางการแพทย์ และ นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางตามโครงการ Travel Bubble ซึ่งรายละเอียดแต่ละประเทศต้องหารือกันอีกครั้ง

โฆษก ศบค. กล่าวว่า กลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน ที่ตอบรับมาตรการ State Quarantine สามารถดำเนินการได้ทันที แต่กลุ่มแรงงานฝีมือ ผู้เชี่ยวชาญ คนต่างด้าว บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา กลุ่มนักธุรกิจที่เข้ามาระยะสั้นๆ จะต้องผ่านความเห็นจาก ศบค.ชุดใหญ่ในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน และเริ่มดำเนินการ 1 กรกฎาคมนี้ ส่วนกลุ่มผู้ที่เข้ามาทำการรักษาด้านการแพทย์ของไทย หรือ Medical and wellness Tourism จะให้ดำเนินการเมื่อมีความพร้อม  และโครงการ Travel Bubble อาจจะให้มีการพักในรีสอร์ต บังกะโล เพื่อให้นักท่องเที่ยวอยู่เป็นกลุ่มและสามารถติดตามได้

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า การเปิดให้ชาวต่างชาติบางส่วนเดินทางเข้ามาได้ ขณะที่คนไทยในต่างประเทศยังไม่ได้เดินทางกลับเข้าประเทศทั้งหมดนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามการบริหารจัดการที่เหมาะสมและย้ำว่าให้ความสำคัญกับคนไทยทุกคน โดยให้เดินทางกลับมาได้ 500 คนต่อวัน และอาจพิจารณาให้กลับมาเพิ่ม  ส่วนคนที่มีศักยภาพที่จะดูแลค่าใช้จ่ายเองได้ ให้กลับเข้ามาในรูปแบบ Alternative State Quarantine

ด้านพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและการยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 เปิดเผย ว่า หลังการผ่อนคลาย เปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบ อบ นวด วันที่ 1 ก.ค.แล้ว จะเหลือกิจการที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ คือสนามกีฬา ที่มีคนเข้าชมการแข่งขัน สำหรับเรื่อง travel buble หรือ การจับคู่ประเทศเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างประเทศ ที่สามารถจัดการโรคโควิด-19 ได้ดีเท่า ๆ กัน เบื้องต้นหากพร้อมดำเนินการจะไม่เร็วกว่าเดือนสิงหาคม เพราะต้องพิจารณาปัจจัย การแพร่ระบาดโควิด-19 จากสถานการณ์ทั่วโลก รวมถึง ความพร้อมของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  และคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ประเทศต้นทาง และในวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) ที่ประชุม สมช.จะพิจารณาการขยายเวลาการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ หลังครบกำหนดวันที่ 30 มิถุนายน จากนั้นจะนำเสนอที่ประชุม ศบค.พิจารณา และเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาในวันอังคารที่ 30 มิถุนายนนี้ .-สำนักข่าวไทย       

     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ศาลให้ประกัน “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” เงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ

กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – ศาลให้ประกันตัว “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” หลักทรัพย์คนละ 6 แสนบาท เงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ขณะเจ้าตัวเตรียมยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อ เชื่อศาลจะให้ความยุติธรรม ด้านอธิบดีกรมการข้าว มองเป็นกรรมของแต่ละคน ไม่ได้รู้สึกอะไร ให้เป็นตามเวรกรรม นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เปิดเผยภายหลังฟังคำตัดสินว่า ตนเองเคารพคำตัดสินของศาล ซึ่งประเด็นที่จะเป็นแนวทางการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ คือประเด็นที่ศาลมองว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ถูกลงโทษจำคุก 6 ปี แต่ส่วนตัวมองว่าตนเองไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะการแต่งตั้งของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นการแต่งตั้งเฉพาะตัว ซึ่งศาลยังไม่ได้ดูในรายละเอียด เพราะการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น เงินเดือน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับตำแหน่งดังกล่าว แต่ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวลใจกับคำตัดสิน เพราะมองว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ขณะเดียวกันจะมีการต่อสู้ในประเด็นการเชื่อมโยงจำเลยทั้งหมดในชั้นอุทธรณ์ โดยจะชี้แจงว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อมโยงกับจำเลยอีก 4 คน เนื่องจากไม่เคยได้รับผลประโยชน์อะไรจากจำเลยทั้งหมด และเชื่อว่าคำตัดสินในศาลชั้นสูงจะให้ความยุติธรรมกับตัวเอง คำพิพากษาในวันนี้ศาลได้นำโทษคดีคาร์ม็อบ 2 คดี ในพื้นที่เมืองพัทยา และกรุงเทพมหานครเมื่อปี พ.ศ. 2564 […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ข้ามไปหารือผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย ชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตย

สระแก้ว 17 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว เดินทางข้ามไปหารือ ผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย แก้ปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย “บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว” บอกว่า ถ้าไม่มั่นใจ ก็ไม่ไป ก่อนเวลาประมาณ 10.00 น. นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินทางจากฝั่งคลองลึกอรัญประเทศของไทย ข้ามไปบริเวณปอยเปต ของกัมพูชา เพื่อหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ที่ตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา ปอยเปต เพื่อแก้ปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย ในจุดหลังเส้นสีแดงบริเวณบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ข้อพิพาท แต่เป็นอธิปไตยของไทย โดยมี อุม เรีย ไต ผู้ ว่าราชการจังหวัดมันเตรียมเวนเจ มารอต้อนรับที่กลางสะพานมีการทักทายกันอย่างเป็นกันเอง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยังได้ทักทายกับพลโทเป็กวันนา หัวหัวหน้าสำนักงานประสานงานชายแดนกัมพูชา- ไทย ความสัมพันธ์ที่ดีในช่วงที่ผ่านมาว่า พลโทเป๊กวันนา ก็เคยข้ามมารักษาพยาบาลที่ฝั่งไทย โดยก่อนเดินทางไปร่วมประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่าถ้าไม่มั่นใจก็ไม่เดินทางไปเจรจาเพราะการหารือที่ขึ้นเป็นไปตามข้อตกลงของจากการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือ GBC.-สำนักข่าวไทย

ไม่รอด! ศาลสั่งจำคุก “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” กับพวก ร่วมกันรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว

17 ก.ย. – ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำพิพากษา กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา กับเจ๋ง ดอกจิก พร้อมพวกรวม 5 คน ร่วมกันเรียกรับทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ด้าน “ศรีสุวรรณ” เผยมั่นใจและเชื่อมั่นในคำพิพากษาว่าศาลจะให้กลับไปทำหน้าที่เหมือนเดิม ล่าสุดศาลพิพากษาคุก “เจ๋ง ดอกจิก” 6 ปี ด้าน “ศรีสุวรรณ” พร้อมพวกโดนด้วยคนละ 4 ปี นายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียน, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมพวกรวม 5 คน เดินทางเข้ารับฟังคำพิพากษาในข้อหาเรียกรับทรัพย์สินจากอธิบดีกรมการข้าว ก่อนขึ้นฟังคำพิพากษานายศรีสุวรรณ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า คดีนี้เป็นคดีการเมืองที่ผู้มีอำนาจต้องการเตะตัดขา เพราะไม่ต้องการให้ทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง เพราะสิ่งที่ทำมานับ 10 ปี เป็นที่หวาดผวาของนักการเมืองและข้าราชการจำนวนมาก เรื่องร้องเรียนนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองหลายพรรค จบอนาคตการเมืองของนักการเมืองดังหลายคน จึงเป็นที่มาของการหาเหตุให้ต้องคดี โดยใช้เทคนิควิธีการ ซึ่งในภาษากฎหมายเรียกว่าล่อให้กระทำความผิด โดยการเอาถุงเงินไปแขวนหน้าบ้าน หากพฤติกรรมแบบนี้ถือเป็นความผิด อนาคตอาจนำไปใช้กันทั่วประเทศและก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อประชาชน นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า […]