เปิด “ผับ-บาร์-คาราโอเกะ-อาบอบนวด”  1 ก.ค.

ทำเนียบ 24 มิ.ย.- ศบค. เตรียมผ่อนคลาย เปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบ อบ นวด  1 ก.ค.นี้ พร้อมยึดมาตรการหลักของสาธารณสุขและมาตรการเสริมดูแลผู้ใช้บริการ พร้อมลงทะเบียนผ่านแอปฯไทยชนะ ทุกครั้ง เตรียมเปิดให้ต่างชาติบางกลุ่มเดินทางเข้าไทยได้


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้สรุปร่างผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม ที่ยังไม่ได้รับการผ่อนผันในเดือนมิถุนายนอีก 5 กิจการและกิจกรรม ได้แก่ 1 การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา  2ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์   3 สถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ 4  ร้านเกมส์และร้านอินเตอร์เน็ต และ 5สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด โรงน้ำชา  โดยรายละเอียดทั้งหมดจะเสนอให้ ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่พิจารณา และคาดว่าจะสามารถเปิดให้ผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมต่างๆ ได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม

โฆษก ศบค. กล่าวว่า มีประเด็นสำคัญที่ทุกกิจการและกิจกรรมต้องดำเนินการ คือ ให้มีการลงทะเบียนแอปพลิเคชั่นไทยชนะ ก่อนประกาศผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม เพื่อการวางแผน ติดตามของหน่วยงานภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ และทุกกิจการและกิจกรรมต้องจัดให้มีการลงทะเบียนการเข้า-ออกสถานที่และเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชั่น ผู้พิทักษ์ไทยชนะ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในการตรวจประเมินการประกอบกิจการ ส่วนมาตรการคัดกรองไข้ ไอ หอบเหนื่อย จามหรือเป็นหวัด สำหรับพนักงานบริการและผู้ใช้บริการ ให้รายงานหน่วยงานรับผิดชอบ หากพบผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค อีกทั้งให้พัฒนานวัตกรรม เช่นการจองคิวแบบออนไลน์ เพื่อให้บริการรูปแบบใหม่ในระยะยาว นำไปสู่การป้องกันโรค และต้องมีการรายงานผลการตรวจประเมินตามมาตรการควบคุมหลักให้ ศบค.รับทราบ


นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา จะให้เปิดได้ทั้งหมดในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ส่วนห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เปิดดำเนินการหลังเวลา 21.00 น.ได้ ตามความเหมาะสมของพื้นที่หรือการประกอบกิจการ ขณะที่สถานบริการผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ เช่น โรงเบียร์ โรงเหล้า ลานเบียร์ ตามที่ใบอนุญาตประกอบการ  สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกิน 24.00 น. ทุกกรณี มีระยะนั่งและยืน 1 เมตร จำกัดผู้ใช้บริการตามขนาดพื้นที่ มากกว่า 4 ตารางเมตรต่อคน และห้ามร่วมโต๊ะกับกลุ่มอื่น  

นั่งและยืนเป็นกลุ่มได้ไม่เกิน 5 คน งดนั่ง ร้องเพลง เต้น หรือให้มีการเต้นกับลูกค้า งดเต้นนอกพื้นที่โต๊ะหรือที่นั่ง ต้องมีระยะห่างโต๊ะ 2 เมตร หรือมีฉากกั้นสูง 1.5 เมตร และต้องมีระบบระบายอากาศที่ดี มีพื้นที่สูบบุหรี่โดยเฉพาะ ห้ามลูกค้านำสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาบริโภค หลีกเหลี่ยงจำหน่ายเครื่องดื่มรูปแบบเหยือก ถ้วย หรือภาชนะที่ใช้ร่วมกัน  ให้ทุกคนลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ผ่านแอปฯไทยชนะ  งดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกรูปแบบ  และให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดครอบคลุมพื้นที่ร้าน บันทึกข้อมูล 1 เดือน เพื่อกำกับติดตาม 

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนร้านเกมส์และร้านอินเตอร์เน็ต ที่มีอยู่ในพื้นที่ กทม. 2,000 ร้าน และ ต่างจังหวัด 2,000 ร้าน ต้องมีมาตรการ แบ่งเป็น เด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี เข้าใช้บริการได้วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 14.00-20.00 น. วันหยุด  10.00-20.00 น.   อายุ 15-18 ปี ใช้บริการ วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 14.00-22.00 น. วันหยุด  10.00-22.00 น.และอายุ 18 ปีขึ้นไป ใช้บริการได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ต้องมีมาตรการดูแลเรื่องความสะอาดต่างๆ การจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ 4 ตารางเมตรต่อคน  เว้นระยะนั่ง ยืน ทางเดิน 1 เมตร และจำกัดเวลาให้บริการในระบบ 2 ชั่วโมงต่อรอบ เพื่อพักทำความสะอาด 15 นาที และให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดครอบคลุมพื้นที่ร้าน บันทึกข้อมูล 1 เดือน เพื่อกำกับติดตาม 


และสุดท้าย สถานประกอบกิจการ อาบ อบ นวด โรงน้ำชา ที่มีใบอนุญาต ต้องมีมาตรการควบคุมหลักด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้น ขณะอาบน้ำ เว้นระยะนั่งและยืน 1 เมตร ยกเว้นขณะอาบน้ำ ทุกคนต้องลงทะเบียนผ่านแอปฯไทยชนะ  และต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มพนักงานเป็นระยะ พร้อมการเฝ้าระวังโรคอื่นด้วย 

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวถึงการผ่อนคลายการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของชาวต่างชาติ แบ่งเป็น กลุ่มเป้าหมายที่ตอบรับมาตรการ State Quarantine ได้แก่ นักธุรกิจ นักลงทุน 700 คน แรงงานฝีมือ ผู้เชี่ยวชาญ 15,400 คน คนต่างด้าวกรณีเป็นครอบครัวของคนไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในไทย 2,000 คน  ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนนักศึกษา 2,000 คน  และ ผู้ที่เข้ามาทำการรักษาด้านการแพทย์ของไทย หรือ Medical and wellness Tourism 30,000 คน  ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่ต้องใช้มาตรการควบคุมไว้สังเกต ได้แก่ นักธุรกิจ นักลงทุนที่เข้ามาในระยะเวลาสั้น ๆ หรือแขกของรัฐบาล หน่วยงานราชการ ทั้งนี้ต้องมีการตรวจปลอดโควิด-19 ทั้งจากประเทศต้นทางและเมื่อถึงไทย และต้องมีทีมติดตามทางการแพทย์ และ นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางตามโครงการ Travel Bubble ซึ่งรายละเอียดแต่ละประเทศต้องหารือกันอีกครั้ง

โฆษก ศบค. กล่าวว่า กลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน ที่ตอบรับมาตรการ State Quarantine สามารถดำเนินการได้ทันที แต่กลุ่มแรงงานฝีมือ ผู้เชี่ยวชาญ คนต่างด้าว บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา กลุ่มนักธุรกิจที่เข้ามาระยะสั้นๆ จะต้องผ่านความเห็นจาก ศบค.ชุดใหญ่ในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน และเริ่มดำเนินการ 1 กรกฎาคมนี้ ส่วนกลุ่มผู้ที่เข้ามาทำการรักษาด้านการแพทย์ของไทย หรือ Medical and wellness Tourism จะให้ดำเนินการเมื่อมีความพร้อม  และโครงการ Travel Bubble อาจจะให้มีการพักในรีสอร์ต บังกะโล เพื่อให้นักท่องเที่ยวอยู่เป็นกลุ่มและสามารถติดตามได้

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า การเปิดให้ชาวต่างชาติบางส่วนเดินทางเข้ามาได้ ขณะที่คนไทยในต่างประเทศยังไม่ได้เดินทางกลับเข้าประเทศทั้งหมดนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามการบริหารจัดการที่เหมาะสมและย้ำว่าให้ความสำคัญกับคนไทยทุกคน โดยให้เดินทางกลับมาได้ 500 คนต่อวัน และอาจพิจารณาให้กลับมาเพิ่ม  ส่วนคนที่มีศักยภาพที่จะดูแลค่าใช้จ่ายเองได้ ให้กลับเข้ามาในรูปแบบ Alternative State Quarantine

ด้านพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและการยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 เปิดเผย ว่า หลังการผ่อนคลาย เปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบ อบ นวด วันที่ 1 ก.ค.แล้ว จะเหลือกิจการที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ คือสนามกีฬา ที่มีคนเข้าชมการแข่งขัน สำหรับเรื่อง travel buble หรือ การจับคู่ประเทศเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างประเทศ ที่สามารถจัดการโรคโควิด-19 ได้ดีเท่า ๆ กัน เบื้องต้นหากพร้อมดำเนินการจะไม่เร็วกว่าเดือนสิงหาคม เพราะต้องพิจารณาปัจจัย การแพร่ระบาดโควิด-19 จากสถานการณ์ทั่วโลก รวมถึง ความพร้อมของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  และคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ประเทศต้นทาง และในวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) ที่ประชุม สมช.จะพิจารณาการขยายเวลาการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ หลังครบกำหนดวันที่ 30 มิถุนายน จากนั้นจะนำเสนอที่ประชุม ศบค.พิจารณา และเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาในวันอังคารที่ 30 มิถุนายนนี้ .-สำนักข่าวไทย       

     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจ สอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

GBC หารือใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืนถกถึงเที่ยงคืน

มาเลเซีย 6 ส.ค.-GBC ประชุมใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืน ฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ การหารือภายใต้กรอบ GBC ณ เวลา 07.45 น. วันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) เมื่อคืน คณะเลขานุการ GBC ของทั้งสองฝ่าย ได้เจรจากันถึงเวลา 00.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในบางประเด็นสุดท้าย เนื่องจากฝ่ายเลขานุการ GBC ของฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ จึงได้นัดประชุมอีกครั้ง เวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันนี้ เพื่อหาข้อสรุปสำหรับประเด็นดังกล่าว โดยเมื่อเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับคณะเลขานุการ GBC ของฝ่ายไทยติดตามความคืบหน้าในการเจรจา ให้กำลังใจ และชื่นชมในการทำงานอย่างหนักถึงวินาทีสุดท้ายของทีมไทยแลนด์ ขอให้ประสบความสำเร็จในการเจรจา เพื่อบรรลุผลและปกป้องผลประโยชน์ของไทย.-สำนักข่าวไทย