ทำเนียบ 24 มิ.ย.- ศบค. เตรียมผ่อนคลาย เปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบ อบ นวด 1 ก.ค.นี้ พร้อมยึดมาตรการหลักของสาธารณสุขและมาตรการเสริมดูแลผู้ใช้บริการ พร้อมลงทะเบียนผ่านแอปฯไทยชนะ ทุกครั้ง เตรียมเปิดให้ต่างชาติบางกลุ่มเดินทางเข้าไทยได้
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้สรุปร่างผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม ที่ยังไม่ได้รับการผ่อนผันในเดือนมิถุนายนอีก 5 กิจการและกิจกรรม ได้แก่ 1 การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา 2ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ 3 สถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ 4 ร้านเกมส์และร้านอินเตอร์เน็ต และ 5สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด โรงน้ำชา โดยรายละเอียดทั้งหมดจะเสนอให้ ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่พิจารณา และคาดว่าจะสามารถเปิดให้ผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมต่างๆ ได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม
โฆษก ศบค. กล่าวว่า มีประเด็นสำคัญที่ทุกกิจการและกิจกรรมต้องดำเนินการ คือ ให้มีการลงทะเบียนแอปพลิเคชั่นไทยชนะ ก่อนประกาศผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม เพื่อการวางแผน ติดตามของหน่วยงานภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ และทุกกิจการและกิจกรรมต้องจัดให้มีการลงทะเบียนการเข้า-ออกสถานที่และเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชั่น ผู้พิทักษ์ไทยชนะ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในการตรวจประเมินการประกอบกิจการ ส่วนมาตรการคัดกรองไข้ ไอ หอบเหนื่อย จามหรือเป็นหวัด สำหรับพนักงานบริการและผู้ใช้บริการ ให้รายงานหน่วยงานรับผิดชอบ หากพบผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค อีกทั้งให้พัฒนานวัตกรรม เช่นการจองคิวแบบออนไลน์ เพื่อให้บริการรูปแบบใหม่ในระยะยาว นำไปสู่การป้องกันโรค และต้องมีการรายงานผลการตรวจประเมินตามมาตรการควบคุมหลักให้ ศบค.รับทราบ
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา จะให้เปิดได้ทั้งหมดในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ส่วนห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เปิดดำเนินการหลังเวลา 21.00 น.ได้ ตามความเหมาะสมของพื้นที่หรือการประกอบกิจการ ขณะที่สถานบริการผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ เช่น โรงเบียร์ โรงเหล้า ลานเบียร์ ตามที่ใบอนุญาตประกอบการ สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกิน 24.00 น. ทุกกรณี มีระยะนั่งและยืน 1 เมตร จำกัดผู้ใช้บริการตามขนาดพื้นที่ มากกว่า 4 ตารางเมตรต่อคน และห้ามร่วมโต๊ะกับกลุ่มอื่น
นั่งและยืนเป็นกลุ่มได้ไม่เกิน 5 คน งดนั่ง ร้องเพลง เต้น หรือให้มีการเต้นกับลูกค้า งดเต้นนอกพื้นที่โต๊ะหรือที่นั่ง ต้องมีระยะห่างโต๊ะ 2 เมตร หรือมีฉากกั้นสูง 1.5 เมตร และต้องมีระบบระบายอากาศที่ดี มีพื้นที่สูบบุหรี่โดยเฉพาะ ห้ามลูกค้านำสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาบริโภค หลีกเหลี่ยงจำหน่ายเครื่องดื่มรูปแบบเหยือก ถ้วย หรือภาชนะที่ใช้ร่วมกัน ให้ทุกคนลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ผ่านแอปฯไทยชนะ งดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกรูปแบบ และให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดครอบคลุมพื้นที่ร้าน บันทึกข้อมูล 1 เดือน เพื่อกำกับติดตาม
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนร้านเกมส์และร้านอินเตอร์เน็ต ที่มีอยู่ในพื้นที่ กทม. 2,000 ร้าน และ ต่างจังหวัด 2,000 ร้าน ต้องมีมาตรการ แบ่งเป็น เด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี เข้าใช้บริการได้วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 14.00-20.00 น. วันหยุด 10.00-20.00 น. อายุ 15-18 ปี ใช้บริการ วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 14.00-22.00 น. วันหยุด 10.00-22.00 น.และอายุ 18 ปีขึ้นไป ใช้บริการได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ต้องมีมาตรการดูแลเรื่องความสะอาดต่างๆ การจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ 4 ตารางเมตรต่อคน เว้นระยะนั่ง ยืน ทางเดิน 1 เมตร และจำกัดเวลาให้บริการในระบบ 2 ชั่วโมงต่อรอบ เพื่อพักทำความสะอาด 15 นาที และให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดครอบคลุมพื้นที่ร้าน บันทึกข้อมูล 1 เดือน เพื่อกำกับติดตาม
และสุดท้าย สถานประกอบกิจการ อาบ อบ นวด โรงน้ำชา ที่มีใบอนุญาต ต้องมีมาตรการควบคุมหลักด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้น ขณะอาบน้ำ เว้นระยะนั่งและยืน 1 เมตร ยกเว้นขณะอาบน้ำ ทุกคนต้องลงทะเบียนผ่านแอปฯไทยชนะ และต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มพนักงานเป็นระยะ พร้อมการเฝ้าระวังโรคอื่นด้วย
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวถึงการผ่อนคลายการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของชาวต่างชาติ แบ่งเป็น กลุ่มเป้าหมายที่ตอบรับมาตรการ State Quarantine ได้แก่ นักธุรกิจ นักลงทุน 700 คน แรงงานฝีมือ ผู้เชี่ยวชาญ 15,400 คน คนต่างด้าวกรณีเป็นครอบครัวของคนไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในไทย 2,000 คน ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนนักศึกษา 2,000 คน และ ผู้ที่เข้ามาทำการรักษาด้านการแพทย์ของไทย หรือ Medical and wellness Tourism 30,000 คน ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่ต้องใช้มาตรการควบคุมไว้สังเกต ได้แก่ นักธุรกิจ นักลงทุนที่เข้ามาในระยะเวลาสั้น ๆ หรือแขกของรัฐบาล หน่วยงานราชการ ทั้งนี้ต้องมีการตรวจปลอดโควิด-19 ทั้งจากประเทศต้นทางและเมื่อถึงไทย และต้องมีทีมติดตามทางการแพทย์ และ นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางตามโครงการ Travel Bubble ซึ่งรายละเอียดแต่ละประเทศต้องหารือกันอีกครั้ง
โฆษก ศบค. กล่าวว่า กลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน ที่ตอบรับมาตรการ State Quarantine สามารถดำเนินการได้ทันที แต่กลุ่มแรงงานฝีมือ ผู้เชี่ยวชาญ คนต่างด้าว บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา กลุ่มนักธุรกิจที่เข้ามาระยะสั้นๆ จะต้องผ่านความเห็นจาก ศบค.ชุดใหญ่ในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน และเริ่มดำเนินการ 1 กรกฎาคมนี้ ส่วนกลุ่มผู้ที่เข้ามาทำการรักษาด้านการแพทย์ของไทย หรือ Medical and wellness Tourism จะให้ดำเนินการเมื่อมีความพร้อม และโครงการ Travel Bubble อาจจะให้มีการพักในรีสอร์ต บังกะโล เพื่อให้นักท่องเที่ยวอยู่เป็นกลุ่มและสามารถติดตามได้
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า การเปิดให้ชาวต่างชาติบางส่วนเดินทางเข้ามาได้ ขณะที่คนไทยในต่างประเทศยังไม่ได้เดินทางกลับเข้าประเทศทั้งหมดนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามการบริหารจัดการที่เหมาะสมและย้ำว่าให้ความสำคัญกับคนไทยทุกคน โดยให้เดินทางกลับมาได้ 500 คนต่อวัน และอาจพิจารณาให้กลับมาเพิ่ม ส่วนคนที่มีศักยภาพที่จะดูแลค่าใช้จ่ายเองได้ ให้กลับเข้ามาในรูปแบบ Alternative State Quarantine
ด้านพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและการยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 เปิดเผย ว่า หลังการผ่อนคลาย เปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบ อบ นวด วันที่ 1 ก.ค.แล้ว จะเหลือกิจการที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ คือสนามกีฬา ที่มีคนเข้าชมการแข่งขัน สำหรับเรื่อง travel buble หรือ การจับคู่ประเทศเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างประเทศ ที่สามารถจัดการโรคโควิด-19 ได้ดีเท่า ๆ กัน เบื้องต้นหากพร้อมดำเนินการจะไม่เร็วกว่าเดือนสิงหาคม เพราะต้องพิจารณาปัจจัย การแพร่ระบาดโควิด-19 จากสถานการณ์ทั่วโลก รวมถึง ความพร้อมของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ประเทศต้นทาง และในวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) ที่ประชุม สมช.จะพิจารณาการขยายเวลาการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ หลังครบกำหนดวันที่ 30 มิถุนายน จากนั้นจะนำเสนอที่ประชุม ศบค.พิจารณา และเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาในวันอังคารที่ 30 มิถุนายนนี้ .-สำนักข่าวไทย