กรุงเทพฯ 22 มิ.ย.-“พ.ต.ท.บรรยิน” ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มระหว่างที่ถูกควบคุมตัวมายังห้องพิจารณาคดี ยืนยันไม่เคยคิดแผนแหกคุก เพิ่งมาทราบจากข่าวตอนอ่าน นสพ.บนห้องพิจารณาคดีไม่กี่นาทีที่ผ่านมา พร้อมขอความเป็นธรรมต่อศาล ว่าชีวิตในคุกถูกกระทำเยี่ยงสัตว์ ขณะที่ชุดหนุมาน กองปราบนั่งประกบถึงในห้องพิจารณาคดี
เมื่อเวลา 10 นาฬิกาวันนี้(22 มิ.ย.) ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐานคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ซึ่ง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ตกเป็นจำเลยที่ 1 หลังร่วมกับพวก 6 คน ก่อเหตุอุ้มพี่ชายผู้พิพากษาไปต่อรองคดี ซึ่งวันนี้ ศาลเปิดห้องให้สื่อมวลชนดูและฟังจากด้านนอก มีวีดีโอคอนเฟอร์เรนท์ให้ฟัง ไม่อนุญาตให้เข้าไปในห้องพิจารณาคดีเหมือนคดีทั่วไป
โดยบรรยากาศก่อนที่จะนำตัว พ.ต.ท.บรรยิน ขึ้นมาห้องพิจารณาคดี ตำรวจศาล ได้เข้าตรวจความเรียบร้อยภายในห้องพิจารณาคดี นอกจากนี้ชุดหนุมาน กองปราบ เข้าไปตรวจตราความเรียบร้อย และนั่งเฝ้าประตูทางออก โดยทีมทนายความได้หอบแฟ้มเอกสาร 2 กล่องใหญ่ เพื่อมาประกอบการตรวจหลักฐาน
จากนั้นเวลา 10.31 น.เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน เข้ามาภายในห้องพิจารณาคดี โดยสวมชุดนักโทษ มือถือหน้ากากอนามัย มีสีหน้ายิ้มแย้มท่าทางไม่มีความกังวลหรือเครียดแต่อย่างใด และได้เดินไปนั่งข้างทนายพร้อมกับหยิบหนังสือพิมพ์ของทนายมาอ่านอย่างสนใจ ซึ่งคาดอาจอ่านข่าวแหกคุกของตนเอง
กระทั่งเวลา 10.45 น. ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์ พ.ต.ท.บรรยิน ได้แถลงต่อศาล ว่า การวางกำลังป้องกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่เข้มงวดขนาดนี้ ตนไม่สามารถตรวจเอกสารได้ อีกทั้งถูกย้ายไปเรือนจำบางขวาง ถูกใส่ตรวน ขังห้องเดี่ยว ปฏิบัติเยี่ยงอย่างสัตว์ รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมถึงสถานที่เรือนจำไม่สะดวกต่อการอ่านตรวจเอกสารอีกด้วย หากตนได้รับประกันตัวเชื่อว่า จะมีเวลาในการตรวจดู เตรียมข้อมูลได้มากกว่านี้
นอกจากนี้ยังพูดถึงแผนการแหกคุกว่า เพิ่งเห็นจากข่าว ซึ่งเดิมตนอยู่ในเรือนจำ ก็เครียดมากอยู่แล้ว ถึงขนาดคิดผูกคอตาย แต่โชคดีผู้คุมช่วยได้ทัน จึงทำให้มาศาลได้ในวันนี้
จากนั้นก็ขอให้ศาลพิจารณาเลื่อนคดีนี้ ไปจนเสร็จสิ้นคดีอุ้มฆ่าเสี่ยชูวงษ์ ที่ศาลจังหวัดพระโขนงได้หรือไม่ เนื่องจากตนอยู่ในภาวะไม่ปกติ ถูกควบคุมเข้มงวดเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ทนายความ พ.ต.ท.บรรยิน จึงได้ขอเลื่อน บัญชีพยานและคำแถลงไป 60 วัน .-สำนักข่าวไทย