กทม.19 มิ.ย.- เจ้าของร้านทอง เขตพระนคร ที่ถูกกล่าวหาฟอกเงินให้เครือข่ายค้ายาเสพติด ตอบทุกข้อสงสัย จ่อขอความเป็นธรรม
หลังวานนี้ ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำกำลังเข้าจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดและฟอกเงิน หลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ในข่าวระบุว่า มีผู้บริหารร้านทองถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานฟอกเงินนั้น
วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ได้ลงพื้นที่สังเกตุการณ์ร้านค้าทองคำแห่งหนึ่งในเขตพระนครที่ถูกกล่าวหา พบว่าร้านทองยังเปิดให้บริการตามปกติ จึงขอพูดคุยกับเจ้าของร้าน ซึ่งก็ยินดีชี้แจงประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันการฟอกเงินของเครือข่ายยาเสพติดว่าร้านทองของตนเป็นร้านค้าส่งทองคำ ให้กับลูกค้าซึ่งเป็นร้านทองรายย่อยทั่วประเทศ โดยปรากฏว่ามีร้านทองรายย่อยในจังหวัดกาญจนบุรี ที่เป็นลูกค้าของร้านสั่งซื้อทองไปขายให้กับขบวนการค้ายาเสพติด โดยร้านทองดังกล่าว ให้ลูกค้าซึ่งเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดโอนเงินชำระค่าทองคำแท่งให้ร้านของตนยอดเงิน 700,000 บาท แต่เกิดปัญหาการแจ้งรายละเอียดต่อพนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ทำให้ทางร้านถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดฐานฟอกเงิน ส่วนกรณีมีข่าวว่ากรรมการบริษัทตกเป็นถูกกล่าวหาทั้ง 10 คน ในข้อเท็จจริงร้านทองมีกรรมการผู้จัดการเพียง 3 คน และผู้ต้องหารายอื่นตนก็ไม่รู้จักหรือเคยมีความเกี่ยวพันด้วย
ส่วนยอดเงินจำนวนกว่า 3,000 ล้านบาท ที่มีข่าวระบุว่า เป็นรายรับจากการค้ายาเสพติดแท้จริงเป็นยอดเงินงบดุล ที่ห้างทองส่งรายงานบัญชีให้กรมสรรพากรของปีที่ผ่านมาเหตุที่ยอดเงินมากขึ้นหลังปี 2560 เนื่องจากกรมสรรพากร ให้ร้านทองทั่วประเทศจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลทำให้เกิดยอดรายรับของร้านซึ่งเป็นร้านค้าส่งทั่วประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนการต่อสู้คดีและร้องขอความเป็นธรรม กำลังเร่งหารือกับทนายความก่อนชี้แจงรายละเอียดต่อสื่อมวลชนในวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.)
เจ้าของร้านทองยังระบายความรู้สึกกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบต่อธุรกิจ และบุคคลในครอบครัวโดยเฉพาะมารดาที่มีชื่อเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท รวมทั้งเสียความรู้สึกมากเพราะที่ผ่านมา พนักงานบัญชีของร้านได้เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานอย่างตรงไปตรงมาตลอด.-สำนักข่าวไทย
