นนทบุรี 19 มิ.ย. – กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเชิญพันธมิตร 5 เทรดเดอร์ ร่วมคัดสรรสินค้า OTOP Select 3-5 ดาว ดันจำหน่ายบนห้าง พร้อมเปิดตลาดออนไลน์โกอินเตอร์
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเชิญหน่วยงานพันธมิตร 5 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และศูนย์ OTOP คอมเพล็กซ์พุแค จังหวัดสระบุรี ร่วมคัดสรรผลิตภัณฑ์ OTOP Select 3 – 5 ดาว กว่า 211 รายการ จำหน่ายบนศูนย์การค้า โดยปีนี้นอกจากเทรดเดอร์จะนำผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรจำหน่ายบนห้างแล้ว ยังเปิดตลาดออนไลน์เพื่อนำสินค้าจำหน่ายตลาดต่างประเทศ ถือเป็นโอกาสดีที่สินค้า OTOP Select ของไทยจะได้ขยายช่องทางการตลาดให้ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ
“การคัดสรร OTOP Select ครั้งนี้จะพิจารณาถึงศักยภาพ ความพร้อมของผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ทั้งด้านการตลาด มาตรฐาน คุณภาพผลิตภัณฑ์ และการสื่อถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น จำแนกสินค้าออกเป็น 4 ประเภท คือ 1. กินดี (Eat well) ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม 2. อยู่ดี (Live well) ได้แก่ ของใช้ ของที่ระลึก 3. สวยดี (Look well) ได้แก่ ครีมบำรุง ผลิตภัณฑ์สปา และ 4. ดูดี (Dress well) ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ โดยผลิตภัณฑ์ OTOP Select ทั้ง 211 รายการที่เข้าร่วมการคัดสรรฯ ผ่านเกณฑ์การพัฒนาศักยภาพด้านการตลาด เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ อัตลักษณ์สื่อถึงภูมิปัญญาประจำท้องถิ่น และมีความแตกต่างแต่ละภูมิภาค” นายพูนพงษ์ กล่าว
นอกจากนี้ จะได้รับโอกาสขยายช่องทางการตลาดไปจำหน่ายยังสถานที่ต่าง ๆ เช่น สนามบิน ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อกระตุ้นยอดขาย สร้างภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างการจดจำให้แก่ผู้บริโภคแล้ว ยังจะได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความนิยมในสินค้าท้องถิ่น และนำไปสู่การสร้างรายได้ที่มั่นคงให้ชุมชนต่อไป
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า เดือนสิงหาคม 2563 กรมฯ เตรียมจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายและพันธมิตรทางการค้า ในรูปแบบคลัสเตอร์รายพื้นที่และกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การประกอบธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทำให้เกิดการส่งต่อเทคโนโลยีและกลุ่มลูกค้าระหว่างกันเป็นการขยายตลาดให้กว้างขึ้น นอกจากนี้ จะสร้างโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้นโดยการเจรจาจับคู่ธุรกิจ และการจัดงานแสดงสินค้าของดีทั่วไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้การเข้าสู่ช่องทางการตลาดทั้งการเจรจาและการออกร้าน
ขณะเดียวกันได้มีการผลักดันให้ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า รวมถึงนำการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจ และการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อให้สามารถจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการตลาดออนไลน์ถือเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ และทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน สอดรับกับกระแสบริโภคนิยมที่ปัจจุบันมักใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อสินค้า โดยเฉพาะการทำการประชาสัมพันธ์และการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เช่น เฟสบุ๊ค ไลน์ ฯลฯ ที่สามารถเข้าถึงตัวผู้บริโภคได้ใกล้ชิดมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย