จับอดีตสายลับตำรวจแชทลวงเมียฝรั่ง ก่อนจี้ชิงทรัพย์

อุดรธานี 18 มิ.ย.-ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี รวบอดีตสายลับตำรวจแชทผ่านแอปฯ หาคู่ หลอกหญิงวัย 30 ปี ก่อนใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ ได้เงิน-มือถือ-รถจยย. อ้างหาเงินใช้หนี้พนัน 


กรณีเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. ของวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.เอ นามสมมุติ อายุ 30 ปี ชาวบ้านในเขตเทศบาลนครอุดรธานี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกคนร้ายเป็นชายอ้างตัวว่าเป็นตำรวจสายสืบ ใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์กระเป๋าเงินแบบหนังสีน้ำตาล ข้างในมีเงินสด 7,500 บาท บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ ก่อนถูกขู่บังคับให้ผู้เสียหาย พาไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มอีก 20,000 บาท แล้วพาไปปล่อยทิ้งไว้ ที่ถนนเลียบคลองชลประทาน บ้านนาทราย ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี 


หลังรับแจ้ง ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จึงออกติดตามไล่ล่าคนร้ายผ่านทางสัญญาณจีพีเอสของโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายที่คนร้ายยังเปิดเครื่อง และวนเวียนอยู่ในพื้นที่ตัวเมืองอุดรธานี จนกระทั่งมาพบสัญญาณบน ถ.เลี่ยงเมือง อุดรธานี-หนองบัวลำภู ทราบว่าคนร้ายอยู่บนรถแท็กซี่ ตำรวจจึงวิทยุสกัดจับรถแท็กซี่ที่คนร้ายนั่งอยู่ด้านหน้า และขับรถปาดหน้าให้รถแท็กซี่จอด จากนั้นตำรวจจะเข้าตรวจค้นจับกุม แต่คนร้ายชักปืนขึ้นมาเล็งใส่ตำรวจ พร้อมบอกว่าหากเข้ามาในรถจะยิงสู้ ตำรวจจึงใช้ยุทธวิธีก่อนแย่งปืนจากมือของคนร้ายไว้ได้ และทำการจับกุม ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายที่มากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน

พ.ต.ท.พัฒน์วงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยภายหลังการจับกุมว่าคนร้ายชื่อนายสุขสันต์ หรือนาย ขันแข็ง อายุ 35 ปี เบื้องต้นถูกข้อกล่าวหากรรโชกทรัพย์ และชิงทรัพย์ พร้อมของกลาง ปืนบีบีกัน 1 กระบอก, ซองปืน, ซองกระสุน, กุญแจมือ 1 อัน, ไฟฉาย 1 กระบอก, ซองหนังตราโล่ 1 อัน, รถจักรยานยนต์ 1 คัน, กระเป๋าหนังสีน้ำตาล 1 ใบ,โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง และบัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ 


และจากการสอบสวนนายสุขสันต์ ให้การรับสารภาพว่าติดยาบ้า และอ้างว่าเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เคยเป็นสายให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.อุดรธานี ที่ทำไปเพราะต้องการเงินไปใช้หนี้การพนันออนไลน์ หลังจากแชทแอปฯบาดู กับผู้เสียหาย เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ก่อนวางแผนกรรโชกทรัพย์ผู้เสียหายในบ้านพัก ภายในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี โดยใช้ปืนปลอมขู่บังคับให้ผู้เสียหายพาไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อในเขตเทศบาลนครอุดรธานี แล้วคนร้ายนำตัวไปปล่อยทิ้งไว้ที่ถนนนอกตัวเมือง ก่อนคนร้ายหลบหนีไปพร้อมกับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย และนำรถไปซ่อนไว้ในหอพักแห่งหนึ่งในเขต ต.บ้านเลื่อม ก่อนจ้างแท็กซี่ให้ขับวนเวียนอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี เพื่อทำการโอนเงินที่ได้มาใช้หนี้พนันออนไลน์จนหมด ก่อนตำรวจไล่ติดตามมาจับกุมตัว

จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุมตัวในข้อหาลักทรัพย์ ปี 2560 ติดคุก 6 เดือน ส่วนที่อ้างว่าเป็นสายลับให้ตำรวจ จากการตรวจสอบทราบว่าคนร้ายเคยเป็นสายให้ตำรวจจริง แต่ประพฤติตนไม่เหมาะสม และชอบอ้างตัวเป็นตำรวจ ทำการตักเตือนมาหลายครั้ง แต่ไม่เชื่อฟังจึงถูกสั่งไม่ให้เข้ามาทำหน้าที่สายลับ 

ด้าน น.ส.เอ ผู้เสียหาย ให้การว่ามีสามีเป็นชาวต่างชาติ รู้จักกับนายสุขสันต์ ในชื่อเจมส์ จากการแชทบาดูได้เพียง 3 วัน และคิดว่าเป็นคนดี จึงคุยตอบแชทด้วย ก่อนเกิดเหตุนายสุขสันต์ นั่งรถแท็กซี่มาหาตนที่บ้านพัก ตนก็ให้การต้อนรับและไม่คิดอะไร นอกเหนือจากความเป็นเพื่อน ระหว่างตนกำลังตากผ้าอยู่หลังบ้าน คนร้ายได้ชักอาวุธปืนออกมาขู่ และนำกุญแจมือมาใส่ที่ข้อมือทั้งสองข้างของตน ซึ่งตอนนั้นลูกสาวของตนวัย 11 ขวบ ดูทีวีอยู่ จากนั้นคนร้ายบอกว่าตนมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งที่ตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และหากไม่อยากโดนจับดำเนินคดี ให้เอาเงินมาแลกกับการปล่อยตัว 100,000 บาท และอย่านำเรื่องไปบอกใคร หากไม่เชื่อจะฆ่าให้ตาย เพราะกำลังเดือดร้อนในหน้าที่การงาน ซึ่งทำให้ตนตกใจมาก เนื่องจากคนร้ายมีลักษณะเหมือนคนเมายาบ้า ตนจึงตั้งสติยอมทำตามที่คนร้ายบอก เพราะกลัวว่าตัวเองและลูกสาวจะได้รับอันตราย 

หลังยอมทำตามคนร้ายจึงพาตนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ตนเองไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อ เขตเทศบาลนครอุดรธานี 20,000 บาท และบอกว่าจะพาไปเซฟเฮาส์ และยังแวะขี่เข้ามาใน สภ.เมืองอุดรธานี ทำทีให้เหมือนว่าเป็นตำรวจตัวจริง ตนเชื่อเพราะมีปืน และมีซองตราโล่ตำรวจแขวนอยู่ที่คอด้วย จากนั้นคนร้ายได้พาตนขี่รถไปทางเปลี่ยว และจอดรถแย่งเอาโทรศัพท์มือถือจากตนไป พร้อมชักปืนออกมาขู่ว่าจะยิงทิ้ง หากนำเรื่องไปบอกใคร ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ของตนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีให้พามาแจ้งความตำรวจที่โรงพัก และติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ นำ ครม. แถลงผลประชุมนัดพิเศษ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – นายกฯ นำ ครม. แถลงผลประชุมนัดพิเศษ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน เศรษฐกิจ-ความมั่นคง-ภัยพิบัติ-สังคม เข้มปราบยา-พนันออนไลน์ ย้ำรัฐบาลนี้ไม่กาสิโน ลั่นทำงานไม่มีวันหยุด อาจประชุม ครม. มากกว่าสัปดาห์ละครั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรีทั้ง 35 คน แถลงผลการประชุม ครม.นัดพิเศษ ว่า ตนและคณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมนัดพิเศษเป็นครั้งแรก ซึ่งได้มีการรับทราบถึงวาระสำคัญ ดังนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะทำการแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งเรากำลังรอคำยืนยันจากประธานรัฐสภาอยู่ คาดว่าต้นสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบนโยบายของรัฐบาล มีสาระสำคัญ คือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน ได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจ การลดรายจ่าย ลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ผลักดันโครงการคนละครึ่ง ลดค่าเดินทาง ค่าขนส่ง และค่าพลังงาน เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีค่าครองชีพ มีรายจ่ายลดลง นอกจากนั้น ในด้านพลังงาน จะสนับสนุนประชาชนได้ใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น สะดวกขึ้น […]

สีสันรัฐมนตรีรวมตัว ถ่ายรูปทำบัตร

24 ก.ย. – ทำเนียบกลับมาคึกคัก หลังรัฐมนตรีมารวมตัว ถ่ายรูปทำบัตร วันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนได้เห็นตัวรัฐมนตรี และครบทั้งคณะ งานนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสัน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งหลังนำ ครม.ถวายสัตย์ฯ

ทำเนียบ 24 ก.ย.-นายกฯ ปลื้มปีติเสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งหลังนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ลั่นพร้อมทำงานสุดความสามารถ สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรีเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล หลังจากเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ ที่ตึกบัญชาการ 1 ทันทีที่มาถึง ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราโชวาทอย่างไรบ้าง โดยนายอนุทิน กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาคลอ ว่า คณะรัฐมนตรีทุกคนได้รับพระราชทานพร และพระบรมราโชวาท ตนเชื่อว่า คณะรัฐมนตรีทุกท่านมีความปลื้มปีติ และจะต้องทำงานสนองพระเดชพระคุณ และสนองพระมหากรุณาธิคุณอย่างสุดความสามารถ สุดชีวิต สุดสมองของแต่ละท่านที่มีอยู่ เป็นมงคลสูงสุดที่พวกเราได้รับ ผู้สื่อข่าวกระเซ้านายกฯ ว่า ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ นายอนุทิน ยิ้ม และพยักหน้ารับ ก่อนย้ำว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สามัญชนอย่างตนพึงได้รับ จะไม่มีทางทำอะไรนอกจากทำคุณงามความดีให้กับประเทศและประชาชน ตามพระราชดำรัสที่ได้รับสั่งไว้ เมื่อถามว่า ยอมสละชีวิตได้ทุกอย่างเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ ซึ่งทำมานานแล้ว เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม”.-319.-สำนักข่าวไทย

สนง.เขตดุสิต ประกาศห้ามเข้า ห้ามใช้อาคาร ใกล้พื้นที่ถนนทรุดตัว

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – สำนักงานเขตดุสิต ประกาศห้ามเข้า ห้ามใช้อาคาร ใกล้พื้นที่ถนนทรุดตัว หน้า รพ.วชิรพยาบาล กรณีเกิดถนนทรุดตัวขนาดใหญ่บริเวณถนนสามเสน ทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่แยกวชิรพยาบาล ถึงแยกราชวิถี ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาการจราจร การประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก ตลอดจนสิ่งสาธารณะของประชาชนได้รับความเสียหายในพื้นที่ และถนนอาจทรุดตัวเพิ่มใกล้อาคารที่อยู่บริเวณถนนสุโขทัย แขวงและเขตดุสิต กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นอาคารดังกล่าวอาจเป็นภยันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน เห็นควรหยุดใช้อาคาร หากมีการใช้อาคารอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ใช้อาคารได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สำนักงานเขตดุสิต จึงประกาศห้ามเข้า ห้ามใช้อาคาร ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543 (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550 (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมอาคาร […]