เปิดเหตุผลรื้ออาคาร “บอมเบย์ เบอร์มา”

แพร่ 17 มิ.ย. – กระแสร้อนแรงเกี่ยวกับการทุบอาคารเก่าแก่อายุ 131 ปี ซึ่งในอดีตเป็นของบริษัทข้ามชาติที่เข้ามารับสัมปทานตัดไม้ ชาวบ้านในพื้นที่ไม่พอใจ เพราะถือเป็นอาคารเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม


สืบเนื่องจากกรณีผู้รับเหมารื้อทุบอาคารเก่าแก่อายุ 131 ปี ซึ่งเป็นอดีตอาคารของบริษัท บอมเบย์ เบอร์มาฯ ภายในสวนรุกขชาติเชตะวัน ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่หน่วยราชการไม่แจ้งข้อมูลให้ทราบ โครงการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงและซ่อมแซม งบประมาณ 4.56 ล้านบาท แต่ภาพที่เกิดขึ้นเป็นการทุบอาคารทั้งหลังและนำไม้ไปกองไว้ ผิดกับหลักการรื้อถอนของสถาปนิกที่ต้องมีแบบแปลนที่แล้วเสร็จและชัดเจน มีสเกลของอาคารที่ชัดเจน


ล่าสุดวันนี้ (17 มิ.ย.) ชาวจังหวัดแพร่ที่ไม่พอใจกรณีสมบัติเก่าแก่ของจังหวัดถูกทำลายโดยไม่ทราบเรื่องแม้แต่น้อย ได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดเพื่อขอทราบเหตุผลในการรื้ออาคารเก่าแก่ แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากจังหวัด และขอเลื่อนชี้แจงไปเป็นวันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน เวลา 09.00 น. จากนั้นมีประชาชนรวมกลุ่มไปที่อาคารหลังดังกล่าว เพื่ออ่านกลอนเรียกร้องเปิดเผยข้อมูล


ส่วนบริเวณอาคารที่ถูกรื้อทิ้ง ยังมีประชาชนทยอยกันมาดูพื้นที่จริงเป็นจำนวนมาก ต่างไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าว อาคารเก่าแก่ที่ถูกทุบทิ้งแล้วจะมาอ้างว่าสร้างใหม่ให้เหมือนเดิมนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้

ด้านสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นเจ้าของในการปรับปรุง ให้สัมภาษณ์ว่า โครงการถูกทำขึ้นตั้งแต่ปี 2560-2561 เป็นการของบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเก่าแก่ในสวนรุกชาติบ้านเชตะวัน จนกระทั่งมีการอนุมัติในปี 2563 วงเงิน 6,707,190 บาท จากนั้นจังหวัด ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเป็นผู้ดำเนินการ และอธิบดีได้มอบหมายให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 ผู้ดำเนินการต่อ ยืนยันว่าการรื้ออาคารไม่ใช้การทุบทิ้งหรือทำลาย แต่เป็นขั้นตอนการรื้อเพื่อดำเนินการบูรณะปรับปรุงอาคาร แต่ด้วยอาคารเสื่อมสภาพอย่างมากจึงต้องรื้อออกทั้งหมด โดยรักษาชิ้นส่วนที่ยังมีสภาพสมบูรณ์เก็บไว้เป็นชิ้นส่วนหลักในการปรับปรุงอาคารใหม่ที่คงรูปแบบเดิม ซึ่งกำลังทำบัญชีจัดกลุ่มไม้แต่ละส่วน ตามกำหนดจะสร้างปรับปรุงอาคารเสร็จภายใน 180 วัน นับตั้งแต่เริ่มโครงการวันที่ 2 มิถุนายน 2563 ขณะนี้ได้สั่งให้ระงับการดำเนินการทุกอย่างแล้ว เพราะทำให้ประชาชนเสียใจ ก่อนประสานให้ผู้รับเหมามาชี้แจงต่อไป

วสท.แนะมีหลายวิธีบูรณะอาคารเก่าแก่โดยไม่ต้องรื้อ

ด้าน รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ระบุว่า การซ่อมแซม ปรับปรุงหรือบูรณะอาคารเก่าแก่นั้น จะต้องคงโครงสร้างอาคารเดิมเพื่อรักษาคุณค่าให้ได้มากที่สุด จากนั้นจึงสำรวจหาจุดที่บกพร่องหรือผุพัง เพื่อหาวิธีการซ่อมแซม ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความทันสมัยมาก หากพบโครงสร้างมีปัญหา สามารถเสริม เติม ยึด ฉีดอัด หรือเปลี่ยนให้แข็งแรงอย่างเก่า หรือแข็งแรงกว่าเดิมได้หลายวิธีการ เช่น  หากเกี่ยวกับฐาน หรือโครงสร้างพื้นที่ใช้รับน้ำหนักตัวอาคาร สามารถใช้วิธี GROUTING หรือการเคลือบพื้น Epoxy โดยที่ไม่มีความจำเป็นต้องไปรื้อ ถอน หรือทุบทำลายอาคาร นอกจากนี้ต้องสำรวจตรวจสอบความเสียหาย ก่อนแจ้งให้ผู้รับผิดชอบพื้นที่ว่าอาคารเสียหายขนาดใด ก่อนหารือวิธีการบูรณะ โดยจะไม่มีการลงมือทำโดยไม่ปรึกษาผู้ว่าจ้างเด็ดขาด

กรมศิลปากรชี้อาคาร “บอมเบย์ เบอร์มา” เข้าข่ายเป็นโบราณสถาน

ด้านนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ถึงกรณีสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 ทำหนังสือสอบถามกรมศิลปากร หลังประเมินว่าอาคารดังกล่าวเสียหายและจำเป็นต้องรื้อถอน แต่ไม่ได้รับคำตอบว่าขณะนี้ยังไม่เห็นตัวหนังสือ จึงได้สั่งให้สำนักกรมศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ที่รับผิดชอบพื้นที่ ตรวจสอบว่าเอกสารถูกส่งมาเมื่อใด

ส่วนประเด็นว่าอาคารดังกล่าวจะเข้าข่ายเป็นโบราณสถานหรือไม่ หากดูจากข้อมูลภาพรวม รูปแบบอาคาร อายุ ประวัติความเป็นมา ลักษณะการก่อสร้าง คุณค่าทางประวัติศาสตร์ ถือว่าเข้าข่ายการเป็นโบราณสถาน แต่จะเป็นประเภทที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ซึ่งประเทศไทยมีโบราณสถานที่ได้รับการสำรวจและขึ้นทะเบียนประมาณ 3,000 แห่ง และที่สำรวจแล้วแต่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียน 7,000-8,000 แห่ง รวมทั้งอีกหลายพันแห่งทั่วประเทศที่ยังไม่ได้สำรวจ 

ทั้งนี้ การสำรวจและขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน มีกระบวนการหลายรูปแบบ เช่น กรมศิลปากรในฐานะหน่วยงานที่ดูแลและอนุรักษ์โดยตรง สามารถขออนุญาตเข้าไปสำรวจดำเนินการ หรือหน่วยงานรัฐ เอกชน บุคคล องค์กร เจ้าของพื้นที่ แจ้งความประสงค์ขอความร่วมมือมายังกรมศิลปากรให้เข้าสำรวจ. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอก ประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดน ไม่เคยจบง่ายบางประเทศใช้เวลาเป็น 100 ปี อย่าไปกังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 […]

ชื่นชมผ้าไทยลายกริพเพน

25 ส.ค. – ผ้าไทยลาย “กริพเพน” ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินขับไล่กริพเพน ของกองทัพอากาศไทย ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย เพจกรุงเก่าของชาวสยาม และคุณ Kamon Wan เผยแพร่ภาพผ้าไทยลายเครื่องบินรบกริพเพน โดยกองทัพอากาศ รายงานว่าแนวคิดนี้เกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องบินกริพเพน ที่มาร่วมพิทักษ์แผ่นดินไทย ชายแดนไทย-กัมพูชา และถูกถ่ายทอดลงบนผ้าไหมสุรินทร์อันเลื่องชื่อ ผสาน “ความแข็งแกร่ง” ของนักรบกับ “ความงาม” แห่งภูมิปัญญาไทยได้อย่างทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แม่ย่านางกริพเพน” ศิลป์และศรัทธาได้รวมเป็นหนึ่ง ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย นี่คือผลงานที่ย้ำเตือนว่าไทยมิได้มีเพียงกำลังปกป้องผืนแผ่นดิน แต่ยังรักษารากเหง้าวัฒนธรรมอันงดงามไว้คู่กัน เพื่อบอกชัดแก่โลกว่าเราคือประเทศไทยผู้สืบสานวัฒนธรรม ที่จะไม่มีวันให้ใครมาย่ำยี ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน ว่าผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสวีเดนประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ของ SAAB สวีเดน ได้เห็นแล้วปลื้มใจมากที่คนไทยมีความรู้สึกที่ดีกับเครื่องบินกริพเพน และนับเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ กองทัพอากาศมีกำหนดที่จะลงนามในสัญญาจัดซื้อเครื่องบิน Gripen C/D กับ FMV และ SAAB สวีเดน ในวันนี้ (25 สิงหาคม) นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล […]

“คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามบ่ายนี้ ไทยเตรียมรับฝนหนัก​ 25-27​ ส.ค.

กรุงเทพฯ​ 25 ส.ค.​ – กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วงบ่ายถึงค่ำ วันนี้​ เตือนทั่วไทยฝนฟ้าคะนองเพิ่ม ขณะที่ภาคอีสาน​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ​ เตรียมรับมือฝนถล่ม ช่วง 25​ -​ 27​ ส.ค.​นี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้​อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่น​คาจิกิอยู่ห่างจากเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 150 กม. เคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า​ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วง​บ่าย​ถึง​ค่ำ​วันนี้​ และเข้าสู่ สปป ลาว ตามลำดับ เมื่อ​ขึ้นฝั่ง​พายุ​จะ​เริ่ม​อ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ประเทศ​ไท​ยจะเป็น​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ แต่ไม่รุนแรง​เท่าพายุ​วิภา ทั้งนี้​ ช่วงวันที่ 25–27 ส.ค. 68 ประเทศ​ไท​ยจะมีฝนตก​เพิ่ม​ เริ่มจาก​ขอบของ​พายุ​ ประกอบกับกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตก​หนัก​ถึง​หนัก​มาก​ โดยเฉพาะ​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​ขอให้​ประชาชนติดตามประกาศแจ้ง​เตือน​ลักษณะ​อากาศ​อย่างใกล้ชิด.​ 512​ – สำนักข่าว​ไทย​

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ตะวันออกฝ-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง […]