เปิดเหตุผลรื้ออาคาร “บอมเบย์ เบอร์มา”

แพร่ 17 มิ.ย. – กระแสร้อนแรงเกี่ยวกับการทุบอาคารเก่าแก่อายุ 131 ปี ซึ่งในอดีตเป็นของบริษัทข้ามชาติที่เข้ามารับสัมปทานตัดไม้ ชาวบ้านในพื้นที่ไม่พอใจ เพราะถือเป็นอาคารเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม


สืบเนื่องจากกรณีผู้รับเหมารื้อทุบอาคารเก่าแก่อายุ 131 ปี ซึ่งเป็นอดีตอาคารของบริษัท บอมเบย์ เบอร์มาฯ ภายในสวนรุกขชาติเชตะวัน ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่หน่วยราชการไม่แจ้งข้อมูลให้ทราบ โครงการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงและซ่อมแซม งบประมาณ 4.56 ล้านบาท แต่ภาพที่เกิดขึ้นเป็นการทุบอาคารทั้งหลังและนำไม้ไปกองไว้ ผิดกับหลักการรื้อถอนของสถาปนิกที่ต้องมีแบบแปลนที่แล้วเสร็จและชัดเจน มีสเกลของอาคารที่ชัดเจน


ล่าสุดวันนี้ (17 มิ.ย.) ชาวจังหวัดแพร่ที่ไม่พอใจกรณีสมบัติเก่าแก่ของจังหวัดถูกทำลายโดยไม่ทราบเรื่องแม้แต่น้อย ได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดเพื่อขอทราบเหตุผลในการรื้ออาคารเก่าแก่ แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากจังหวัด และขอเลื่อนชี้แจงไปเป็นวันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน เวลา 09.00 น. จากนั้นมีประชาชนรวมกลุ่มไปที่อาคารหลังดังกล่าว เพื่ออ่านกลอนเรียกร้องเปิดเผยข้อมูล


ส่วนบริเวณอาคารที่ถูกรื้อทิ้ง ยังมีประชาชนทยอยกันมาดูพื้นที่จริงเป็นจำนวนมาก ต่างไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าว อาคารเก่าแก่ที่ถูกทุบทิ้งแล้วจะมาอ้างว่าสร้างใหม่ให้เหมือนเดิมนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้

ด้านสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นเจ้าของในการปรับปรุง ให้สัมภาษณ์ว่า โครงการถูกทำขึ้นตั้งแต่ปี 2560-2561 เป็นการของบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเก่าแก่ในสวนรุกชาติบ้านเชตะวัน จนกระทั่งมีการอนุมัติในปี 2563 วงเงิน 6,707,190 บาท จากนั้นจังหวัด ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเป็นผู้ดำเนินการ และอธิบดีได้มอบหมายให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 ผู้ดำเนินการต่อ ยืนยันว่าการรื้ออาคารไม่ใช้การทุบทิ้งหรือทำลาย แต่เป็นขั้นตอนการรื้อเพื่อดำเนินการบูรณะปรับปรุงอาคาร แต่ด้วยอาคารเสื่อมสภาพอย่างมากจึงต้องรื้อออกทั้งหมด โดยรักษาชิ้นส่วนที่ยังมีสภาพสมบูรณ์เก็บไว้เป็นชิ้นส่วนหลักในการปรับปรุงอาคารใหม่ที่คงรูปแบบเดิม ซึ่งกำลังทำบัญชีจัดกลุ่มไม้แต่ละส่วน ตามกำหนดจะสร้างปรับปรุงอาคารเสร็จภายใน 180 วัน นับตั้งแต่เริ่มโครงการวันที่ 2 มิถุนายน 2563 ขณะนี้ได้สั่งให้ระงับการดำเนินการทุกอย่างแล้ว เพราะทำให้ประชาชนเสียใจ ก่อนประสานให้ผู้รับเหมามาชี้แจงต่อไป

วสท.แนะมีหลายวิธีบูรณะอาคารเก่าแก่โดยไม่ต้องรื้อ

ด้าน รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ระบุว่า การซ่อมแซม ปรับปรุงหรือบูรณะอาคารเก่าแก่นั้น จะต้องคงโครงสร้างอาคารเดิมเพื่อรักษาคุณค่าให้ได้มากที่สุด จากนั้นจึงสำรวจหาจุดที่บกพร่องหรือผุพัง เพื่อหาวิธีการซ่อมแซม ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความทันสมัยมาก หากพบโครงสร้างมีปัญหา สามารถเสริม เติม ยึด ฉีดอัด หรือเปลี่ยนให้แข็งแรงอย่างเก่า หรือแข็งแรงกว่าเดิมได้หลายวิธีการ เช่น  หากเกี่ยวกับฐาน หรือโครงสร้างพื้นที่ใช้รับน้ำหนักตัวอาคาร สามารถใช้วิธี GROUTING หรือการเคลือบพื้น Epoxy โดยที่ไม่มีความจำเป็นต้องไปรื้อ ถอน หรือทุบทำลายอาคาร นอกจากนี้ต้องสำรวจตรวจสอบความเสียหาย ก่อนแจ้งให้ผู้รับผิดชอบพื้นที่ว่าอาคารเสียหายขนาดใด ก่อนหารือวิธีการบูรณะ โดยจะไม่มีการลงมือทำโดยไม่ปรึกษาผู้ว่าจ้างเด็ดขาด

กรมศิลปากรชี้อาคาร “บอมเบย์ เบอร์มา” เข้าข่ายเป็นโบราณสถาน

ด้านนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ถึงกรณีสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 ทำหนังสือสอบถามกรมศิลปากร หลังประเมินว่าอาคารดังกล่าวเสียหายและจำเป็นต้องรื้อถอน แต่ไม่ได้รับคำตอบว่าขณะนี้ยังไม่เห็นตัวหนังสือ จึงได้สั่งให้สำนักกรมศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ที่รับผิดชอบพื้นที่ ตรวจสอบว่าเอกสารถูกส่งมาเมื่อใด

ส่วนประเด็นว่าอาคารดังกล่าวจะเข้าข่ายเป็นโบราณสถานหรือไม่ หากดูจากข้อมูลภาพรวม รูปแบบอาคาร อายุ ประวัติความเป็นมา ลักษณะการก่อสร้าง คุณค่าทางประวัติศาสตร์ ถือว่าเข้าข่ายการเป็นโบราณสถาน แต่จะเป็นประเภทที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ซึ่งประเทศไทยมีโบราณสถานที่ได้รับการสำรวจและขึ้นทะเบียนประมาณ 3,000 แห่ง และที่สำรวจแล้วแต่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียน 7,000-8,000 แห่ง รวมทั้งอีกหลายพันแห่งทั่วประเทศที่ยังไม่ได้สำรวจ 

ทั้งนี้ การสำรวจและขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน มีกระบวนการหลายรูปแบบ เช่น กรมศิลปากรในฐานะหน่วยงานที่ดูแลและอนุรักษ์โดยตรง สามารถขออนุญาตเข้าไปสำรวจดำเนินการ หรือหน่วยงานรัฐ เอกชน บุคคล องค์กร เจ้าของพื้นที่ แจ้งความประสงค์ขอความร่วมมือมายังกรมศิลปากรให้เข้าสำรวจ. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.