ผู้ตรวจการแผ่นดิน 17 มิ.ย.-มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ ร้องผู้ตรวจฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เหตุปิดกั้นสิทธิของคนหลากหลายทางเพศ
นายพงศธร จันทร์เลื่อน รองประธานมูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ พร้อมคณะ เข้ายื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยกรณีบทบัญญัติแผ่นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิยช์ มาตรา 1448 อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 30 เนื่องจากทำให้คู่รักเพศเดียวกันไม่สามารถจดทะเบียนสมรสและได้รับผลกระทบเสียสิทธิ์ในการรับสวัสดิการของข้าราชการให้คู่ชีวิต กรณีเป็นเรื่องที่คู่รักชายกับชายได้ไปยื่นขอจดทะเบียนสมรส ที่สำนักงานเขตบางกอกใหญ่ ได้รับการปฏิเสธ โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่ากฎหมายมาตราดังกล่าวให้สิทธิเฉพาะหญิงกับชายเท่านั้นที่จะจดทะเบียนสมรสได้ จึงเห็นว่ากฎหมายมาตรานี้ขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 ที่บัญญัติให้บุคคลเสมอภาคกันในทางกฎหมายและได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม ห้ามมีการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องเพศ จึงสมควรที่จะมีการแก้ไข
นายพงศธร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีคู่รักเพศเดียวกันที่ใช้ชีวิตด้วยกัน และประสงค์ที่จะจดทะเบียนสมรสมีจำนวนมาก แต่กฎหมายก็ไม่รับรอง จึงอยากให้ผู้ตรวจฯ มีคำวินิจฉัยเรื่องนี้เพื่อก่อให้เกิดการเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงกฎหมายที่มีอยู่ โดยเฉพาะแก้ไขมาตรา 1448 ของบทบัญญัติแผ่นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ด้วยการเปลี่ยนจากคำว่าหญิง-ชาย มาเป็นคำว่า บุคคล ก็น่าจะครอบคลุม ดีกว่าการไปออก พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่ขณะนี้กระทรวงยุติธรรมกำหลังดำเนินการอยู่ โดยจากที่ตนได้เข้าไปร่วมยกร่างกฎหมายดังกล่าว พบว่าไม่ตอบโจทย์คนที่มีความหลากหลายทางเพศ ซ้ำทำให้กลายเป็นพลเมืองชั้นสอง เนื่องจากในตัวร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต มีการกำหนดสิทธิพึงมีพึงได้ของคนที่มีความหลากกลายทางเพศแตกต่างจากคู่ชีวิตหญิง-ชาย โดยเฉพาะสิทธิตามสวัสดิการของรัฐ
สำหรับกรณีของผู้ร้องทั้งสองคนเป็นตัวอย่างที่ดี คนหนึ่งเป็นเภสัชเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่อีกคนทำงานเอกชน ซึ่งไม่สามารถใช้สวัสดิการของอีกฝ่ายได้ หรือเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็ไม่สามรถจะเช็นต์เพื่ออนุญาตทำการรักษาได้เหมือนหญิง- ชาย รวมทั้งการขอมีบุตร.-สำนักข่าวไทย