fbpx

กสิกรไทยช่วยลูกค้ากว่า 915,000 รายบรรเทาผลกระทบโควิด-19

กรุงเทพ ฯ 15 มิ.ย.  – กสิกรไทยเดินหน้ามาตรการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ช่วยลูกค้ากว่า 915,000 รา


นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยยังคงเดินหน้าหลายมาตรการเพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยหากนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 ที่ธนาคารเริ่มโครงการช่วยเหลือลูกค้า จนถึงล่าสุด ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2563 ธนาคารได้ดูแลช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการและลูกค้าบุคคลรายย่อย ผ่านมาตรการของธนาคารและโครงการของทางการแล้วรวมเป็นจำนวนกว่า 915,000ราย ตามรายละเอียดดังนี้ 1) ธนาคารให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการแล้วจำนวน 161,518 ราย ยอดหนี้คงค้างที่ได้รับประโยชน์ 744,007 ล้านบาท โดยมาตรการช่วยเหลือหลักๆ ในส่วนนี้ เน้นไปที่การพักชำระเงินต้น พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ตลอดจนลดภาระผ่อนต่อเดือน

2) ธนาคารให้ความช่วยเหลือลูกค้าบุคคลรายย่อยแล้วจำนวน 753,350 ราย ยอดหนี้คงค้างที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 163,488 ล้านบาท โดยมาตรการช่วยเหลือในส่วนนี้ครอบคลุมการพักชำระหรือลดภาระผ่อนสินเชื่อต่อเดือนสำหรับลูกค้าผู้ใช้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อที่มีหลักประกัน สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคาร


3) การให้วงเงินสำหรับสินเชื่อใหม่กับลูกค้าผู้ประกอบการจำนวนกว่า 2.75 แสนล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นวงเงินสินเชื่อที่ปล่อยผ่านโครงการ Soft Loan ของธนาคารออมสิน และโครงการ Soft Loan ธนาคารแห่งประเทศไทยรวมประมาณ 22,000 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อที่ธนาคารกสิกรไทยปล่อยกู้เองประมาณ 206,000ล้านบาท และสินเชื่อผ่านมาตรการทางการ โดยมีบสย. ค้ำประกันจำนวน 54,000 ล้านบาท

 ธนาคารกสิกรไทยพร้อมดูแลให้ความช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารทุกกลุ่ม ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้ามีสภาพคล่องเพียงพอต่อการประคับประคองธุรกิจ และสามารถเตรียมแผนเพื่อฟื้นฟูธุรกิจได้อย่างรวดเร็วทันทีที่สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลงตามลำดับในระยะข้างหน้า.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ ส่วนปมหลอกนายกฯ ยืนยันเป็นตำรวจตัวเล็กจะไปทำกับผู้นำประเทศได้อย่างไร ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่กระทบบริหารตำรวจทั่วประเทศ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว