กรุงเทพฯ 13 มิ.ย.-ศบค.มท.สั่งการทุกจังหวัดจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลายและเหมาะสมกับพื้นที่ เน้นการบริหารจัดการให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนควบคู่กับมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีข้อสั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวชายหาดด้วยการกำหนดการใช้พื้นที่ให้มีความชัดเจน มุ่งเน้นความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและประชาชน ไม่เกิดความแออัด รวมทั้งให้ดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่ท่องเที่ยวและบริเวณโดยรอบ
ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการตามความเหมาะสมกับพื้นที่ ทั้งการสำรวจพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวชุมชน แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการเพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนควบคู่กับมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและจัดระเบียบ
“แบ่งสัดส่วนการใช้พื้นที่สถานที่ท่องเที่ยวให้มีความชัดเจน อาทิ พื้นที่ร้านค้า สถานประกอบการ พื้นที่สำหรับพักผ่อน พื้นที่จัดกิจกรรม พื้นที่จอดรถ หรือพื้นที่อื่น ๆ ให้สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างเหมาะสม โดยกำหนดมาตรการควบคุมจำนวนผู้เข้ามาท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดและเป็นไปตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม โดยถือหลักหลีกเลี่ยงติดต่อสัมผัสระหว่างกัน อำนวยความสะดวกและบริหารจัดการระบบการจราจร รวมทั้งประชาสัมพันธ์การใช้เส้นทางให้แก่ประชาชนเพื่อลดความแออัดของพื้นที่” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ต้องกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ทั้งการรักษาความสะอาดบริเวณแหล่งท่องเที่ยวโดยเฉพาะจุดที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ และให้มีจุดล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค รวมทั้งกำจัดขยะในพื้นที่โดยรอบแหล่งท่องเที่ยว และรณรงค์ให้ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ให้เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตปกติ และสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วน ให้ตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของแอปพลิเคชันในการสอบสวนโรคย้อนหลังได้.-สำนักข่าวไทย