ทำเนียบฯ 12 มิ.ย.-“พุทธิพงษ์” ระบุ ไม่ปิดกั้นความคิดของ ส.ส.กทม. ยืนยันให้เกียรติ หากจะย้ายกลุ่ม แต่อาจรู้สึกเสียใจ เพราะทาบทามมาเองทุกคน เชื่อจับกลุ่มต่อรองตำแหน่งกับนายกฯ ไม่ได้
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และในฐานะรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงปัญหาในพรรคพลังประชารัฐที่ขณะนี้มีการตั้งข้อสังเกตถึงความไม่เป็นเอกภาพ หลังกลุ่ม ส.ส.กทม.ไปลงพื้นที่กับกลุ่มของ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหา ยังทำงานร่วมกัน และยังประชุมสภาผู้แทนราษฎรร่วมกัน ส่วนการลงพื้นที่ก็เป็นนโยบายที่สนับสนุนกันอยู่แล้ว ส่วนใครจะชวนใครลงพื้นที่ ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเป็นหน้าที่ ส.ส.ที่ต้องลงพื้นที่ดูแลความเดือดร้อนของประชาชน
ส่วนมีการมองว่า ส.ส.กทม.แตกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มที่อยู่กับนายพุทธิพงษ์ มี 7 คนและกลุ่มที่อยู่กับ น.ส.วทันยา มี 5 คน นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่มี ต้องดูยาว ๆ ทุกอย่างเป็นไปได้ พร้อมกับเชื่อว่าเมื่อมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เสร็จ จะทำให้ทุกอย่างมีเอกภาพมากขึ้น และต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา 1 ปี สถานการณ์ของพรรคในเรื่องการทำงาน ยังมีหลายอย่างที่ต้องทำ แต่ยังไม่ได้ทำ ซึ่งไม่ได้เป็นความผิดของใคร เพราะต่างคนก็ต่างมีภารกิจ ทั้งนี้กรรมการบริหารพรรคชุดแรกเริ่มเข้ามาก่อตั้งพรรค แต่ปัจจุบันมี ส.ส.ร้อยกว่าคน รวมทั้งมีสาขาและสมาชิกอีกจำนวนมาก จึงควรมีองค์ประกอบของ ส.ส.ในแต่ละภาคเข้ามาเป็นกรรมการบริหาร เพื่อมีส่วนร่วมสะท้อนปัญหาของประชาชน จึงถึงเวลาที่จะปรับเปลี่ยน
นายพุทธิพงษ์ กล่าวถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ ส.ส. ว่า ยังดีอยู่ และไม่เคยปิดกั้นความคิดใครว่าจะต้องสนับสนุนใคร เพราะเป็น ส.ส.กันแล้ว แต่ละคนมีความคิดเป็นของตัวเอง
“เราไม่ใช่เจ้าของชีวิตเขา ไม่ใช่เจ้าของความคิดเขา อาจดูว่าเหมือนเราไม่ได้พูดคุยกัน แต่ความสัมพันธ์ส่วนตัว ผมว่ายังดีอยู่ ไม่ได้มีอะไรมาก และเท่าที่ดูจากสื่อก็ไม่มีเรื่องการต่อรอง ผมยังไม่เห็นอะไรเหล่านั้น” นายพุทธิพงษ์ กล่าว
ส่วนเรื่องที่มีการไปตั้งกลุ่มเพื่อต่อรองทางการเมือง นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจ เแต่ยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำและไม่เชื่อในเรื่องต่อรองตำแหน่ง หากจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ก็ไม่เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะพิจารณาจากการจับกลุ่มในพรรค ซึ่งไม่ใช่ระบบและวิธีที่ถูกต้อง
“ระบบนี้อาจใช้ได้ในช่วงก่อนเลือกตั้ง ว่ามีใครสนับสนุนผู้สมัครคนไหน เพื่อช่วยให้ได้เป็น ส.ส. แต่หลังมีการเลือกตั้งมานานแล้ว มารวบรวม ส.ส.ในพรรคตัวเองเพื่อเป็นพลังในการต่อรองตำแหน่งนั้น ตนจึงไม่คิดว่าระบบนี้จะเกิดขึ้น เพราะถ้ามี คงเป็นปัญหากันใหญ่ เพราะทุกคนคงไปรวบรวม ส.ส.ขึ้นมาต่อรอง จึงไม่คิดว่าระบบนี้เป็นระบบที่นายกรัฐมนตรีจะใช้ ซึ่งตนไม่ทราบเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี แต่คิดว่าถ้าใช้ระบบนี้ จะยุ่งกันไปใหญ่ทุกภาคและทุกโซน” นายพุทธิพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกน้อยใจหรือไม่ที่ให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ต้น แต่กลับจะย้ายกลุ่ม นายพุทธิพงษ์ ยอมรับว่า ส.ส.และผู้สมัครทุกคน ตนเป็นคนทาบทามมาร่วมพรรคด้วยตัวเอง แต่ไม่สามารถไปเป็นเจ้าของความคิดของใครได้
“วันหนึ่งหากใครคิดจะไปไหน ก็ต้องให้เกียรติและสิทธิ แต่ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไร ส่วนตัวไม่ได้เสียใจอะไร และคิดว่าเขาเป็นบุคลากรที่ดีและมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ถ้าวันหนึ่งผมนั่งคิดได้ ก็อาจเสียใจด้วยตัวเองว่าเราเลือกมาเองและสนับสนุนเขาไปถึงฝั่งแล้ว ก็เป็นสิ่งที่เขาจะดำเนินการได้ตามความคิดของเขา ส่วนผมก็มีความคิดของผมเอง” นายพุทธิพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย