สงขลา 12 มิ.ย. – ชาวบ้าน ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา กังวลโครงการก่อสร้างขุดลอกทะเลสาบสงขลาตอนล่าง ประโยชน์น้อยกว่ามูลค่าของงบประมาณที่ใช้ และกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง
ประชาชนที่เดินทางข้ามทะเลสาบสงขลา โดยใช้เส้นทางสะพานติณสูลานนท์ ในพื้นที่ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา ตั้งข้อสังเกตว่ามีเรือขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ใช่เรือประมง ลอยอยู่ในทะเลสาบสงขลาระยะหนึ่งแล้ว เรือเหล่านี้นั้นเข้ามาดำเนินการโครงการก่อสร้างขุดลอกทะเลสาบสงขลาตอนล่าง ซึ่งดำเนินการโดยกรมเจ้าท่า ใช้งบประมาณ 167 ล้านบาท โดยว่าจ้างเอกชนเข้าดำเนินการ ตามแผ่นป้ายของโครงการระบุว่าจะมีปริมาณงาน 882,600 ลูกบาศก์เมตร และมีกำหนดสิ้นสุดสัญญา 17 มิถุนายน 2563 ในขณะที่การดำเนินการขุดลอก รวมถึงการนำตะกอนดินที่ขุดได้กว่า 800,000 ลูกบาศก์เมตร นำไปทิ้งที่ไหน อย่างไร สร้างความกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างมาก เนื่องจากเกรงจะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึง ความคุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไปนั้นเหมาะสมกับงานและประโยชน์ที่ได้หรือไม่
นายปรีชา สุขเกษม ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดสงขลา ระบุว่า โครงการนี้ถือเป็นเรื่องที่ชาวบ้านสนใจ หลังพบเรือ 3-4 ลำ ลอยอยู่ในทะเลสาบสงขลา โครงการใช้งบประมาณ 167 ล้านบาท ถือเป็นงบประมาณที่สูงมาก ทราบว่าขุดลอกทะเลสาบสงขลาแล้วนำตะกอนดินไปทิ้งเกาะหนู-เกาะแมว ในอ่าวไทย (เขตน่านน้ำจังหวัดสงขลา) มองว่าน่าจะมีการนำตะกอนดินมาใช้ให้เป็นประโยชน์กว่าทิ้งทะเล เช่น การถมที่ อาจถมในพื้นที่ตำบลเกาะยอ ซึ่งจะได้ที่สาธารณะเพิ่มมากขึ้น ระยะทางขนดินใกล้กว่า ประหยัดงบประมาณ และจะเชื่อได้อย่างไรว่าเมื่อนำตะกอนดินไปทิ้งที่เกาะหนู เกาะแมว จะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ทำให้ปะการังเสียหาย น่าจะมีการบริหารจัดการกันใหม่
ที่สำคัญหากนำดินมาถมที่ตำบลเกาะยอ ซึ่งอยู่ริมทะเลสาบสงขลา การตรวจสอบตรวจวัดปริมาณงาน เนื้องาน จะทำได้ชัดเจน ซึ่งไม่ทราบว่าทางผู้ตรวจรับงานใช้หลักเกณฑ์อย่างไรในการตรวจสอบว่าตรงตามเป้าหมายหรือไม่ มองว่าหน่วยงานตรวจสอบงบประมาณ อย่าง ป.ป.ท. หรือ ป.ป.ช. ควรจะเข้ามาตรวจสอบในประเด็นนี้ และหน่วยงานดำเนินการอย่างกรมเจ้าท่า ควรออกมาชี้แจงว่ากำลังทำอะไรในทะเลสาบสงขลา คนรอบทะเลสาบสงขลาจะได้ประโยชน์อย่างไร เพื่อจะได้นำเสนอแนวทางในการพัฒนาพื้นที่รอบทะเลสาบสงขลาต่อไป.-สำนักข่าวไทย