กรุงเทพฯ 11 มิ.ย.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทลายธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ที่มีอดีตจ่าสิบตำรวจเป็นเจ้าของ อ้างผลตอบแทนสูง มีผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนกว่า 5 หมื่นคน พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท
พลตำรวจโทชวลิต แสวงพืชน์ ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , ผู้แทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง , ปปง. และผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ร่วมกันแถลงระบุว่า ช่วงเดือน กันยายน 2562 ก.ล.ต. ตรวจสอบพบข้อความ ที่บริษัท พีบี. สมาร์ทฟาร์มเมอร์ จํากัด(มหาชน) ตามโซเชียลมีเดีย ชักชวนประชาชนให้ร่วมลงทุนธุรกิจเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแม่เหล็ก อ้างว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ เสนอให้ผลตอบแทนร้อยละ 5 ต่อสัปดาห์ หลังจาก 95 สัปดาห์ จะได้รับเงินปันผลตามผลประกอบการของบริษัท ซึ่งจะทำให้ผู้ร่วมลงทุนได้กำไร สูงถึง 475 เปอร์เซ็นต์ของเงินต้น พร้อมกับแพ็คเกจในการร่วมลงทุนที่มีตั้งแต่ 1,000 – 1 ล้านบาท ซึ่งผลตอบแทนขึ้นกับเงินลงทุน เช่น แพ็คเกจลงทุน 10,000 บาท ได้เงินปันผลสัปดาห์ละ 500 บาท รวม 95 สัปดาห์ปันผลสูงสุด 47,500 บาท นอกจากนี้ มีอ็อบชั่นเสริม ให้กับผู้ลงทุนหาสมาชิกใหม่ได้ จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มอีกร้อยละ 10 ของยอดเงินลงทุน และรับเงินเพิ่มอีกจากระบบแชร์ลูกโซ่จับคู่ ที่ทางบริษัทอุปโลกน์ขึ้นมา
ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร ยังระบุว่า นอกจากเครือข่ายนี้ได้ชักชวนประชาชนทางไลน์แล้ว ยังมีการเดินสายจัดสัมนาชักชวนให้ประชาชนมาร่วมลงทุน ทั้งในจังหวัดเพชรบูรณ์ เชียงราย บุรีรัมย์ สงขลา ชลบุรี ด้วยแพ็คเกจที่ดึงดูดใจ ผลตอบแทนสูงแบบที่เป็นไปไม่ได้ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อร่วมลงทุนกว่า 50,000 คน ทั่วประเทศ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท
พลตำรวจตรีพันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการข่าวกรองยาเสพติด ให้ข้อมูลว่า เครือข่ายนี้สามารถหาสมาชิกเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 จึงตรวจสอบไปตามธุรกิจด้ายพลังงานอีก 7 ธุรกิจ และธุรกิจด้านสุขภาพที่บริษัทนี้ อ้างว่า ได้นำเงินไปลงทุน ปรากฎว่าธุรกิจทั้งหมดไม่มีอยู่จริง จึง ไม่สามารถสร้างผลกำไรมาตอบแทนผู้ลงทุนได้ เช่นเดียวกับเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานแม่เหล็ก ก็ไม่มีอยู่จริง จึงขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 4 คน ในชุดแรก
ได้แก่ จ่าสิบตำรวจวิชาญ เมฆพายัพ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท พีบี.สมาร์ทฟาร์มเมอร์ นายธีวรา เมฆพายัพ บุตรชายของจ่าสิบตำรวจวิชาญ นายสถาพร พุกบุญมี กรรมการผู้จัดการบริษัท และนายวิณกรณ์ จับอรุณวรรณกิจ โดยจ่าสิบตำรวจวิชาญ นายธีร์วรา และนายประพร เข้ามอบตัวหลังออกหมายจับ
ส่วนนายวิณกรณ์ หลบหนี ไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ตำรวจนำหมายไปจับกุมตัวไว้ได้ในขณะสวมชุดขาวปฏิบัติธรรม
จากนั้นตำรวจขยายผลยุดและอายัด ทรัพย์สินบริษัท พีบี สมาร์ทฟาร์เมอร์ ที่คาดว่าใช้เงินจากการร่วมลงทุนของเหยื่อไปฟอกเงิน โดยการซื้อ อสังหาและทรัพย์สินเก็บไว้ คือโฉนดที่ดิน 37 ฉบับ รถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์และฟอร์ด จำนวน 22 คัน อาวุธปืน 1 กระบอก รวมทรัพย์สินที่ยึดอายัด จำนวน 127 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท นอกจากนี้ อายัดเงินฝากธนาคารของบริษัท พีบี สมาร์ทฟาร์มเมอร์ และ บัญชีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจำนวน 41 บัญชี รวมเงินประมาณ 55 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามทั้ง 4 คนนี้ถือเป็นผู้ต้องหาชุดแรก ตำรวจเตรียมขยายผลจับกุม ผู้ที่เป็นพ่อทีม แม่ทีมในการหาสมาชิกมาร่วมลงทุน อีกจำนวนมากในเร็วๆนี้ ส่วนผู้เสียหายให้เข้าแจ้งความ โดยสแกน QR Code เพื่อลงทะเบียน หลังลงทะเบียนตำรวจจะนัดวันเวลาให้มาแจ้งความอีกครั้งหนึ่ง .-สำนักข่าวไทย