10 มิ.ย.-นักวิชาการ เชื่อรัฐบาลอาจเก็บภาษี e-Service ได้มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 3,000 ล้านบาทต่อปี แต่ผู้บริโภคที่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ของต่างประเทศอาจต้องจ่ายแพงขึ้น
กรณีที่คณะรัฐมนตรี.ที่เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ หรือ e-Service ว่า เป็นการเก็บภาษีเช่น การให้บริการดาวน์โหลดภาพยนตร์และสื่อบันเทิงต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สำหรับผู้ให้บริการที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ซึ่งต่างประเทศจัดเก็บภาษีกันหลายประเทศแล้ว และผู้ให้บริการเอกชนรายใหญ่พร้อมยินดีจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้การแข่งขันเกิดความเป็นธรรมในการบริการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านออนไลน์
นายสืบศักดิ์ สืบภักดี นักวิชาการด้านเทคโนโลยี มองว่ากฎหมายฉบับนี้จะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลในการให้กรมสรรพากรเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการสินค้าอื่นๆด้วย เพราะผู้ประกอบการในไทย เมื่อมีการซื้อขายสินค้าหรือใช้บริการตามห้างร้านทั่วไป จะต้องมีการคำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7 % ด้วย ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่เคยมีการเก็บภาษีจากอีคอมเมิร์ส แต่การจะดำเนินการเรื่องนี้ให้สำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ในการแจ้งข้อมูลในส่วนของเงินรายได้ และหากจะทำจริงๆ เม็ดเงินที่รัฐบาลคาดว่าจะได้ปีละ 3 พันล้านบาท อาจจะเก็บได้มากกว่านั้น เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป หันไปซื้อสินค้าและใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ที่สำคัญต่อจากนี้ผู้ซื้อของหรือใช้บริการในแพลตฟอร์มออนไลน์ของต่างประเทศอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากจะต้องถูกคิดคำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจบนแพลตฟอร์มนั้นจะผลักให้เป็นภาระของผู้บริโภค.-สำนักข่าวไทย