กรมการแพทย์ 10 มิ.ย.-สถาบันทันตกรรม ห่วงวัยรุ่นที่อยากหล่อ-สวยด้วยการจัดฟันแฟชั่น แนะเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง ผิดกฎหมายและอันตราย ทั้งจากการติดเชื้อ เกิดแผลอักเสบ และถึงแก่ชีวิตจากวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการจัดฟันว่า เป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องการสบฟันผิดปกติ ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันยื่น ต้องมีทันตแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน จะช่วยให้มีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น เพิ่มความมั่นใจและเสริมบุคลิกภาพ แต่ในการจัดฟันแฟชั่น ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้มีรูปแบบพัฒนาไปจากเดิมมาก มีแหล่งขายรีเทนเนอร์ขนาดใหญ่ และร้านที่ลักลอบให้บริการติดอุปกรณ์ลวดดัดฟันแฟชั่นผิดกฎหมาย เช่น เปิดร้านเช่าเล็กๆ และมีพนักงาน 1-2 คนให้บริการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน นักศึกษา คิดค่าบริการในราคาถูก ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้เกิดอันตรายได้
ดังนั้น ควรได้รับการรักษาจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีการประเมินก่อนการรักษา เพราะการจัดฟันเป็นการรักษาที่ต่อเนื่องและใช้ระยะเวลานาน เครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ต้องผ่านขั้นตอนการฆ่าเชื้อ มีการบรรจุในซองอย่างดี รวมไปถึงขั้นตอนในการติดตั้งอุปกรณ์ในการจัดฟันต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ ซึ่งหากเกิดปัญหาจากการจัดฟันจัดฟันแฟชั่นหรือร้านที่ไม่ได้มาตรฐาน ต้องรีบพบทันตแพทย์ทันทีเพื่อทำการรักษาและแก้ไขได้ทันเวลา
ทันตแพทย์อำนาจ ลิขิตกุลธนพร ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดฟันแฟชั่นจากร้านหรือคลินิกเถื่อน ส่งผล ร้ายต่อสุขภาพฟันและสุขภาพช่องปาก ทำให้เหงือกอักเสบเป็นแผล มีเลือดไหล เกิดแผลในช่องปาก เนื่องจากลวดและพลาสติกอาจกดเหงือกหรือทิ่มเหงือก สารอันตราย เช่น ปรอท สารหนู ตะกั่ว อาจดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากการใช้เครื่องมือที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่ได้มาตรฐาน
นอกจากนี้อาจเกิดการติดเชื้อ เนื่องจากขั้นตอนในการทำสกปรก ไม่มีการล้างมือด้วยน้ำยากำจัดเชื้อ เครื่องมือที่ใช้ไม่มีการฆ่าเชื้อโรค ทำให้เกิดฟันผุหรือปวดฟันจากการใส่ลวดในช่องปาก ทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันลดลง เศษอาหารติดได้ง่าย และที่สำคัญอาจถึงแก่ชีวิตโดยไม่รู้ตัว จากการใส่ลวดเส้นเล็ก ถ้าไม่แน่นหรือหลวมขยับได้จะเกิดอันตรายอย่างมาก ยิ่งใส่นอนหรือขณะรับประทานอาหาร ลวดขนาดเล็กรวมถึงอุปกรณ์ชิ้นเล็กที่ติดไม่แน่นอาจหลุดเข้าคอได้ .-สำนักข่าวไทย