สธ.10มิ.ย.-“อนุทิน”รับจะลงมาดู 186โรงพยาบาลด้วยตนเอง หลังมีข้อมูลรับเงินบริจาคจากบริษัทยา 5เปอร์เซนต์ เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ ปัดเป็นกรรมการห้ามศึกแถลงตอบโต้รายวันใน สธ. เชื่อยิ่งแถลงประชาชนได้ประโยชน์ ส่วนเรื่องมือดีโพสต์หลักฐานใบเสร็จรับเงินทางออนไลน์สอบ “หมอเกรียงศักดิ์” ให้สสจ.ขอนแก่นตรวจสอบ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณี 186 โรงพยาบาลรับเงินบริจาคจากบริษัทยา ว่า เรื่องนี้ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ต้องดูรายละเอียดให้มากกว่านี้ ต้องมีรายละเอียดหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ ทั้งเอกสารและบุคคล พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ไม่ยาก เนื่องจากมีกฎหมายกำหนดและถือเป็นอำนาจของรัฐมนตรีโดยตรง เนื่องจากกระทบต่อกระทรวงสาธารณสุขโดยตรง ไม่ใช่เรื่องของบุคคลอีกต่อไป
นายอนุทิน ย้ำว่า อะไรผิดก็ว่าไปตามผิดอะไรถูกก็ว่าไปตามถูก จะมาอ้างความสนิทสนมไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการทำงานในระบบราชการ มีระเบียบ มีกฎหมาย มีกรอบจรรยาบรรณ
นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลจำนวน 186 โรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องถือว่าเป็นจำนวนมากจากโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งหมดกว่า 800 แห่ง แต่ไม่กังวล เรื่องของแบบนี้สามารถพิสูจน์ได้ เพราะต้องมีหลักฐานการโอนเงินหรือรับเงิน เข้ากองทุนสวัสดิการโรงพยาบาล จำนวนเงินเท่าใด เข้าวันไหน บัญชีอะไร มีการออกใบเสร็จรับเงินหรือไม่ ทั้งหมดชัดเจน ต้องตรวจสอบตามหลักฐาน ข้อเท็จจริงที่ปรากฎ
ส่วนเรื่องการยื่นหลักฐานและข้อความสนเท่ห์แนบใบเสร็จรับเงินรพ.ชุมแพ ขอให้มีการตรวจสอบ เช่นเดียวกับ รพ.ขอนแก่น ในโลกออนไลน์ เรียกร้องให้ตรวจสอบ อดีต ผอ.รพ.ชุมแพ นั้น ขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียด เรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้โดยสอบถามไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น หรือ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 7 ได้ เพราะเรื่องนี้ยังไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีแต่เรื่องบริษัทยาจ่ายเงิน 5เปอร์เซนต์ให้กับโรงพยาบาลเกี่ยวข้องกับตนแน่นอน
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนการตอบโต้กันไปมาระหว่างปลัดกระทรวงสาธารณสุข กับ ผอ.รพ.ขอนแก่น ตนคงไม่ห้าม เนื่องจากเชื่อว่าประชาชนจะได้ประโยชน์จากข้อมูลตรงนี้ คนที่แถลงกันไปต้องรับผิดชอบตนเอง ถ้าตนของเรียกดูข้อมูลแล้วไม่มีก็สามารถโดนอีกฝ่ายฟ้องร้อง เพราะเข้าข่ายให้ร้ายกล่าวโทษ หมิ่นประมาท และเชื่อว่าการแถลงโต้กันแบบนี้จะทำให้ได้ข้อมูลมากที่สุด ทั้งนี้ย้ำว่าความหุนหันพลันแล่นจะทำให้คนพังมานักต่อนักแล้ว .-สำนักข่าวไทย