ลูกค้าโวยร้านอาหารตามสั่งขายกะเพราหมูกรอบแพง

อุดรธานี 8 มิ.ย.-ลูกค้าโวยร้านขายอาหารตามสั่งคิดราคากะเพราหมูกรอบแพงกล่องละ 75 บาท ฝั่งร้านอาหารแจงต้นทุนมาแพง-ติดราคาชัดเจน ถ้าคิดว่าราคาแพงก็ไม่ต้องกิน


มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “นายเบิกบาน หวานชื่น” โพสต์ข้อความ เตือนภัย ร้านอาหารตามสั่งธรรมดาแต่ราคาไม่ธรรมดา คะน้าหมูกรอบ 3 จาน กะเพราหมูกรอบ 1 จาน  ข้าวผัด 1 กล่อง  รวม 385 บาท พร้อมกับถ่ายภาพหน้าร้านอาหารตามสั่งจุดเกิดเหตุ ทำให้มีเพจสาธารณะเข้ามาแชร์และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก


ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ร้านอาหารตามสั่งที่ถูกโพสต์ในเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งอยู่ใน หมู่ 13 บ้านเทื่อม ริมถนนอุดรธานี -บ้านผือ ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ ซึ่งเป็นช่องเช่าปูนชั้นเดียว พบนายศักดิ์ชัย อายุ 71 ปี และนางแดง อายุ 66 ปี สามีภรรยาเจ้าของร้าน หน้าร้านมีตู้กระจกใส่วัตถุดิบในการทำอาหาร  ร้านนี้มีโต๊ะนั่งกินอาหาร 4 ตัว ที่ผนังภายในร้านมีการตัดสติกเกอร์สีแดงและเหลือง ติดเป็นเมนู ข้าวผัด คะน้าหมูกรอบ กระเพราทะเลและราคาอาหารไว้ว่า “แซ่บจริง สุด ๆ ได้อื่มสุดใจ อื่มเต็มที่ อร่อยคุ้ม  หมูใหญ่ 70 บาท เล็ก 65  บาท กุ้ง -หมูกรอบทอด 70- 75 บาท

นายศักดิ์ชาย ยังได้ลงมือทำข้าวราดกระเพราะหมูกรอบ ตามที่มีผู้สั่งที่โพสข้อความลงโซเชี่ยล 1 จาน ราคา 75 บาท ให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกับเล่าว่าก่อนหน้านี้พวกตนขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด แต่มาเปิดร้านขายอาหารตามสั่งมา 7-8 ปี  โดยเช่าร้าน 2,000 บาท จะเขียนราคาอาหารและน้ำดื่มติดไว้ฝาผนังร้าน  ก่อนโควิดระบาด ขายได้วันละ 10-20 จาน ราคาจานละ 40 บาท ก็มีลูกค้า 2-3 คนโวยวายว่าขายแพง มาตอนนี้จะมาให้มาขายราคาเดิมไม่ได้หลังเกิดโควิดต้นทุนของแพง จึงขายราคาใหม่ทุกวันนี้ขายได้ 3-5 จาน มีลูกค้าในหมู่บ้านมากินประจำ  ขายได้วันละ 200-300 บาท ก็อยู่ได้ เพราะไม่มีหนี้ 


นายศักดิ์ชัย ถึงวันเกิดเหตุว่าบ่ายวานนี้ มีลูกค้าขาจร เป็นผู้ชาย มาสั่งอาหารใส่กล่อง 5 กล่อง คะน้าหมูกรอบ 3 กล่องๆ ละ 75 บาท กระเพราหมูกรอบ 1 กล่อง ๆละ 75 บาท  ข้าวผัด 1 กล่อง 65 บาท ลูกค้านั่งรอที่โต๊ะ เสร็จแล้วตนคิดเงิน 385 บาท จากนั้นลูกค้าได้โวยวายต่อว่าตนขายแพง ซึ่งตนได้อธิบายว่า ราคาไม่แพง เพราะต้นทุนมาแพง อธิบายเท่าไหร่ก็ไม่ยอมรับ โกรธ ด่าตนเสียหาย ซึ่งตนก็บอกว่าให้ลองมาขายเอง และร้านนี้ติดราคาไว้ชัดเจน ทำไมไม่ดู ทำไมไม่ถามราคา ถ้าคิดว่าราคาแพงก็ไม่ต้องกิน ไม่ต้องซื้อ ซึ่งนายศักดิ์ชัย ได้ไปชี้สติ๊กเกอร์ราคาอาหารที่ติดอยู่ฝาผนังร้าน 

“เมื่อเช้านี้มีตำรวจมา 2 คน มาที่ร้าน สอบถามเรื่องที่มีคนโพสต์ต่อว่า ขายอาหารแพง ผมก็บอกว่าตอนโต้แย้งกัน ผมก็อธิบายว่ายังไง เขาก็ไม่ยอมรับ ราคาผมก็ติดให้ดู สมมติว่า คนตาบอดจะไปซื้อน้ำปลาซักขวด แล้วมาบอกว่าตาบอดมองไม่เห็น ผมถามว่าคนซื้อกับคนขายต้องถามราคากัน ถ้าไม่ถามจะซื้อกันได้อย่างไร คนซื้อต้องถามราคา  จะไปซื้ออะไรก็ตามต้องถามราคา ไปอ้างว่าไม่เห็นราคา ทั้งที่นั่งอยู่แล้วมองป้ายราคาอาหาร ก็เห็นอยู่แล้ว ราคาติดอยู่ตรงหน้า จะมาบอกว่าไม่เห็น ไม่รู้เรื่อง เมื่อก่อนขาย 40 ขึ้นมา 65 แล้ว 75 อาหารทะเลต้องงดขายเพราะกุ้ง ปลาหมึก มันราคาแพงขึ้น ส่วนน้ำอัดลมขวดละ 20 บาท น้ำเปล่าขวดละ 10 บาท ”

นายศักดิ์ชัย เปิดเผยอีกว่า จะไม่ปรับราคา จะขายในราคาเดิม เพราะปรับไม่ได้ ทุกวันนี้ของแพง แก๊สแพงขึ้นมาเรื่อยๆ  น้ำมันพืชแพง จะให้ขายอยู่ในราคาเดิมได้อย่างไร ขายไม่ได้กำไร  ตนลงทุนมากแต่ขายได้น้อย ก็เจ๊งอยู่ไม่ได้  ต้องปรับราคาตามต้นทุน  ทุกวันนี้ก็ขายอาหารไม่ได้เงินอยู่แล้ว ขาดทุน  ได้แค่ค่าเช่า บางวันก็ได้แค่ค่ากิน ส่วนคะน้าหมูกรอบตนขายราคา 75 มานานแล้ว อาหารตนอร่อย ได้เยอะ ไม่มีใครเทียบได้ ร้านตนดังอยู่แล้ว  เคยมีคนมาเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง 20-30 เจ้าแล้วก็เจ๊งหมด ซึ่งตนกำลังสั่งทำป้ายใหม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย