ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17 ราย

ทำเนียบฯ 4 มิ.ย.-โฆษก ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17 ราย เดินทางกลับจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ไม่มีผู้เสียชีวิต ชี้ State Quarantine มีความสำคัญป้องกันแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ย้ำ 5 มาตรการป้องกันโรค หากต้องการผ่อนคลาย ต้องระมัดระวัง


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า วันนี้ (4 มิ.ย.) สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 17 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,101 ราย หายป่วยสะสม 2,968 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 58 ราย อยู่ระหว่างรักษา 75 ราย ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 17 ราย แบ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักใน State Quarantine 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายใหม่ 17 ราย โดยเดินทางกลับจากประเทศคูเวต 13 คน เป็นชายไทย 12 คน อายุ 31-56 ปี และหญิงไทย 1 คน อายุ 44 ปี กลับถึงไทยเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวน 9 คน และวันที่ 26 พฤษภาคม จำนวน 4 คน และเข้าพัก State Quarantine ที่กรุงเทพมหานคร 5 ราย และจังหวัดสมุทรปราการ 8 ราย ทุกรายตรวจพบเชื้อครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน โดย 1 ราย มีอาการไอ หายใจขัด และที่เหลือไม่มีอาการ นอกจากนี้ได้มีการเดินทางกลับจากประเทศกาตาร์ 2 ราย เป็นชายไทย อายุ 24 ปี และหญิงไทย อายุ 29 ปี กลับถึงไทยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม และเข้าพัก State Quarantine ที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยผู้ป่วยหญิงมีอาการไอ มีเสมหะ ปวดศีรษะ (ผู้ป่วยชายไม่มีอาการ) และทั้ง 2 ราย พบเชื้อในครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน และเดินทางกลับจากประเทศซาอุดีอาระเบีย 2 ราย เป็นชายไทย อายุ 28 และ 29 ปี กลับถึงไทยผ่านด่านปาดังเบซาร์ เมื่อวันที่ 21 และ 25 พฤษภาคม และเข้าพัก State Quarantine ที่จังหวัดสงขลา ทั้ง 2 รายตรวจพบเชื้อในครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ไม่มีอาการ


“ในที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขพูดคุยกันว่าตัวเลขผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นมา 2 หลัก นี่คือความสำคัญในการมี State Quarantine หรือสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ การเจอผู้ป่วย 17 รายถือว่าเยอะ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนคนไทยที่เดินทางกลับประเทศวันละ 400-500 คน การจะห้ามไม่ให้คนไทยเดินทางกลับมา คงทำไม่ได้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุเป็นสิทธิ์ของคนไทยที่จะเข้ามา ทุกพื้นที่ต้องต้อนรับ แต่สำคัญที่นโยบายว่าเมื่อเข้ามาแล้วต้องกำกับ หรือตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าจะติดโรค เมื่อผ่านด่านเข้ามาต้องได้รับการตรวจคัดกรอง และเข้าพักใน State Quarantine ลดการแพร่กระจายเชื้อ พร้อมกำชับผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 12 คือ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้ลดเวลาลงให้เร็วได้หรือไม่ ไม่ให้แออัด ให้รีบออกมาเพื่อเข้าสถานกักกันในพื้นที่ จะได้ไม่มีการแพร่กระจายเชื้อ อย่างที่เคยเกิดขึ้นด่านสะเดา ด่านปาดังเบซาร์ที่เคยมีการติดเชื้อ เราไม่อยากให้เกิดภาพเช่นนั้น” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า สำหรับประเทศต้นทางที่คนไทยกลับมา พบว่ามาจากประเทศคูเวต 174 คน ป่วยติดเชื้อมากที่สุด พบยืนยัน 30 คน วันนี้ (4 มิ.ย.) เพิ่มมา 13 คน ประเทศซาอุดีอาระเบียกลับมา 79 คน พบ 12 คน วันนี้ (4 มิ.ย.) พบ 2 คน ซึ่งจะเห็นว่าในประเทศคูเวต ผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด ไม่แปลกที่คนไทยกลับมาอาจมีโรคติดกลับมาด้วย กาตาร์ อินเดีย ก็ยังพุ่งขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ส่วนซาอุดีอาระเบียเริ่มลดลง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า เมื่อพิจารณาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับคนที่เข้ามา ส่วนใหญ่เป็นรับจ้างทั่วไป นักเรียน เกษตรกร พนักงานนวด ค้าขายธุรกิจ และว่างงาน โดยกลุ่มนักเรียนกลับมาจากซาอุดีอาระเบีย ตุรกี อียิปต์ ปากีสถาน และสหรัฐอเมริกา ถ้ารับจ้าง จะมาจากคาซัคสถาน คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนพนักงานนวด มาจากรัสเซีย กาตาร์ อินเดีย คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนเมื่อกลับมามีอาการแค่ไหนอย่างไร พบว่าหากนับจากผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 640 ราย พบว่ามีอาการ 55% ถ้าช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม -3 มิถุนายน 2563 จะพบว่าไม่มีอาการมาก คือ 64% อาจจะเป็นนักเรียน นักศึกษา วัยทำงานที่แข็งแรง ทำให้ติดเชื้อไม่มีอาการ


สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 6,568,510 ราย เสียชีวิตสะสม 387,957 ราย โดยสหรัฐอเมริกายังพบผู้ติดเชื้อสูงสุด 1,901,783 ราย  รองลงมา คือ บราซิล  584,562 ราย ส่วนประเทศไทย อยู่อันดับที่ 80

สำหรับข่าวต่างประเทศที่น่าสนใจ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า อินโดนีเซียอาจเลื่อนเปิดภาคเรียนเดือนธันวาคม โดยเห็นว่าเมื่อประเมินความเสี่ยงการติดโรคของกลุ่มนักเรียน จึงประเมินว่าสถานศึกษาจะเปิดเป็นกลุ่มสุดท้าย ส่วนประเทศไทยยังคงให้เปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ส่วนประเด็นในประเทศ เมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) มีภาพปรากฏในโซเชียลว่า วันหยุดคนทะลักเที่ยวหาดบางแสน รถติดยาว เจ้าหน้าที่เตือนให้เว้นระยะห่าง โดยขอย้ำถึง 5 มาตรการในการป้องกันโรค หากต้องการผ่อนคลาย ก็ต้องระมัดระวัง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า วันนี้จะมีคนไทยที่กลับจากต่างประเทศอีก 3 เที่ยวบิน 663 คน กลับจากอินเดีย และสหรัฐอเมริกา ส่วนวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) 497 คน ขณะที่ด่านทางบก เดินทางกลับจากมาเลเซีย 173 คน สปป.ลาว 9 คน กัมพูชา 4 คน และเมียนมา 1 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย