ทำเนียบรัฐบาล 2 มิ.ย. – ครม.ไฟเขียวต่ออายุมาตรการภาษีสนับสนุนการศึกษา ทั้งของบุคคลธรรมดา – นิติบุคคลออกไปอีก 2 ปี ถึง 31 ธ.ค. 64
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาตามมาตรการภาษีเพื่อการสนับสนุนการศึกษา สำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมสรรพากร โดยขยายเวลาให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอีก 2 ปี จากที่สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.62 ขยายไปเป็นวันที่ 31 ธ.ค.64 เพื่อสนับสนุนภาคเอกชนมีส่วนร่วมพัฒนาการศึกษาต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การขยายการต่อภาษีดังกล่าว จะมีผลทำให้จัดเก็บภาษีลดลง 440 ล้านบาท แต่ช่วยลดภาระการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลในด้านการศึกษาได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ กำหนดยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่ผู้บริจาคที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงิน หรือทรัพย์สินให้แก่สถานศึกษาของรัฐสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน โรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และสถานศึกษาที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยตามสนธิสัญญา หรือความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ
โดยในกรณีบุคคลธรรมดาสามารถนำเงินที่บริจาคมาหักเป็นค่าใช้จ่ายหรือลดหย่อนได้ 2 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายสำหรับการบริจาคตามพระราชกฤษฎีกาอื่นๆ ต้องไม่เกิน 10%
ด้านบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล นำเงินหรือทรัพย์สินมาหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่าของจำนวนที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายในการจัดสร้างและบำรุงรักษาสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ สนามกีฬา ของเอกชนหรือราชการและรายจ่ายสำหรับการบริจาคตามพระราชกฤษฎีกาอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 10% ของกำไรสุทธิ . – สำนักข่าวไทย