รักแท้แพ้รางวัลที่ 1 สามีหอบเงินหนี ภรรยาเดินหน้าทวงสิทธิ์

กทม. 1 มิ.ย. – ทนายรณณรงค์ พา “แอ๊ด” ร้องศูนย์ดำรงธรรม จ.นนทบุรี หลังสามีอยู่กินกันมาไม่ได้จดทะเบียน ถูกรางวัลที่ 1 ก่อนหอบเงินหนีกลับสุโขทัย ฝ่ายหญิงยันไม่ได้ต้องการจะถึงขั้นฟ้องร้องดำเนินคดี แต่วอนเห็นใจบ้าง ด้านพี่สาวหนุ่มถูกหวย 12 ล้าน เผยน้องชายเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ย้ำ “แอ๊ด” เป็นแค่กิ๊กน้องชายเท่านั้น 


ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา น.ส.ณัฐนันท์ หรือ แอ๊ด สิริสุขธนานนท์ อายุ 45 ปี เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม จ.นนทบุรี ให้ช่วยเป็นกลางไกล่เกลี่ยเงินที่ได้จากการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 หมายเลข 589227 มูลค่า 12 ล้านบาท หลังสามีอายุ 51 ปี นำไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.สนามบินน้ำ อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อนจะเก็บเสื้อผ้าหนีและบล็อกเบอร์โทรศัพท์ ไม่สามารถติดต่อได้


น.ส.ณัฐนันท์ ผู้เสียหายเล่าว่า ทำอาชีพค้าขาย รู้จักกับสามีเมื่อปี 2561 ซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่  ขณะว่าจ้างไปส่ง จากนั้นชอบพอรักใคร่กัน ฝ่ายชายจึงย้ายมาอยู่กินด้วยกัน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส กระทั่งไปส่งสินค้าที่จังหวัดราชบุรี แวะไหว้พระที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอโพธาราม จ.าชบุรี และแวะซื้อลอตเตอรี่มา 5 ใบ คือ 2 คู่ 1 ใบ ในเจ้าเดียว โดยนายแป๊ะ ผู้เป็นสามีบอกให้ซื้อเลขที่ลงท้าย 27 ตนเองจึงควักเงิน 500 บาท ซื้อมา 5 ใบ (2คู่ 1 ใบ) และให้สามีเก็บไว้ จนกระทั่งวันที่ 7 กุมภาพันธ์ สามีบอกว่าถูกรางวัลที่ 1 เลข 589227 งวดประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 จำนวน 2 ใบ ไปขึ้นเงิน 12 ล้านบาท พร้อมบอกกับเธอว่าต่อไปเราสองคนจะไม่ลำบากแล้ว จะใช้หนี้ให้ตนเองที่กู้ธนาคารมาทำการค้า โดยสามีเปิดมือถือโชว์แคชเชียร์เช็ค 11,940,000 บาท ให้ดู เธอจึงขอถ่ายเก็บไว้ในมือถือเป็นหลักฐานด้วย


จากนั้นสามีเบิกเงินสดมา 400,000 บาท นำไปปิดไฟแนนซ์รถกระบะ ประมาณ 360,000 บาท ซ่อมแอร์ประมาณ 16,000 บาท แบ่งให้ตน 3,000 บาท และสามีเอาไป 1,000 บาท ต่อมาเมื่อ 6 พฤษภาคม สามีเก็บเสื้อผ้าและเครื่องใช้ส่วนตัวหนีไป พร้อมบล็อกเบอร์โทรศัพท์ ติดต่อไม่ได้อีก 

น.ส.ณัฐนันท์ ผู้เสียหาย ระบุอีกว่า ตั้งแต่คบกันมา เคยไปบ้านสามีที่ จ.สุโขทัย ประมาณ 3 ครั้ง สามีไม่เคยมีพฤติกรรมหรือปฏิบัติตัวกับตนไม่ดี ไม่มีสัญญาณจะส่อแววไปทางนี้ด้วย พยายามติดต่อแล้วแต่ติดต่อไม่ได้ ยืนยันไม่ได้ต้องการจะถึงขั้นฟ้องร้องดำเนินคดี แต่วอนฝ่ายชายเห็นใจบ้าง ยามลำบากทำไมทิ้งกันไป ไม่บอกลาสักคำ อยากจะบอกว่ายังรักอยู่

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ระบุว่า คดีนี้แม้ทั้งคู่จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นสามีภรรยากันจริง ใช้เงินกระเป๋าเดียวกันจริง ก็ต้องเป็นกรรมสิทธิ์ร่วม จะต้องแบ่งเงินกันคนละ 6 ล้านบาท

เบื้องต้นต้องรอให้ทางศูนย์ดำรงธรรมเป็นตัวกลางเรียกมาไกล่เกลี่ยก่อน โดยมีระยะเวลา 15 วัน   ส่วนวันพรุ่งนี้คาดว่าจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.ท่าข้าม ต่อไป

พี่สาวหนุ่มถูกหวย 12 ล้าน เผยแอ๊ดเป็นเพียงกิ๊กน้องชาย

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับคุณฝน สุขสวัสดิ์ พี่สาวของนายวรายุ สุขสวัสดิ์ ผู้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ทางโทรศัพท์ เพราะเจ้าตัวไม่สะดวกที่จะให้ไปบ้านพักที่ ต.นาขุนไกร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย คุณฝนยอมรับว่าน้องชายกลับมาที่บ้านที่สุโขทัยจริง น้องชายมีอาการค่อนข้างเครียดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เลยไม่อยากติดต่อใคร

คุณฝนเปิดเผยต่อว่า จริงๆ แล้วคุณแอ๊ดที่ออกมาร้องเรียน แค่เป็นกิ๊กกับน้องชายเท่านั้น น้องชายมีภรรยาแล้วเป็นคนอุบลราชธานี มีลูกชาย 2 คน ยืนยันน้องชายและภรรยายังไม่ได้แยกกันอยู่ ยังคงอยู่ด้วยกันเป็นปกติ

ก่อนหน้านี้น้องชายซึ่งขับรถแท็กซี่และคุณแอ๊ดได้ชักชวนให้ไปช่วยขับรถส่งของให้ ค่าจ้างให้วันละ 500 บาท ใช้งานสารพัดเท่าที่จะใช้ได้ ต่อมามีความสัมพันธ์ต่อกันแล้วน้องชายกลับไม่ได้ค่าจ้างเลย จนน้องชายเครียด ปรึกษาตลอดว่าไม่มีเงินใช้ เมื่อช่วงปีใหม่ น้องชายทะเลาะกันกับคุณแอ๊ด และโดนไล่ออกจากร้าน แต่ต่อมากลางเดือนมกราคม คุณแอ๊ดเรียกกลับไปทำงานขับรถส่งของให้อีกครั้ง จนกระทั่งมีเหตุการณ์ตามที่เป็นข่าวเมื่อน้องชายถูกรางวัลที่ 1

ส่วนสาเหตุที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ เพราะไม่อยากรับรู้ และสังเกตว่าช่วงนี้น้องชายค่อนข้างเครียด

มีรายงานว่า นายวรายุ หรือแป๊ะ ยืนยันว่าเงินที่ใช้ซื้อลอตเตอรี่เป็นเงินของตนเอง และที่ให้เงินคุณแอ๊ด เป็นการช่วยเหลือเป็นสินน้ำใจรวมแล้ว 730,000 บาท พื้นเพคุณแอ๊ดเป็นคนมีฐานะอยู่แล้ว ที่บ้านตนเองก็ยากจนลำบาก ตนเองไปทำงานด้วยก็ใช้งานหนัก และไม่ได้รับค่าแรงมีเพียงให้กินใช้บ้างเท่านั้น

พระยอมรับ น.ส.ณัฐนันท์มาระบายทุกข์ถูกผัวโกง

ผู้สื่อข่าวได้ไปที่วัดพระศรีอารย์ จ.ราชบุรี ซึ่งอ้างว่าได้ซื้อลอตเตอรี่มาจากแม่ค้าเร่ภายในวัดแห่งนี้ โดยพบกับนายชัยวิชิต เนตรวงศอินทร์ พ่อค้าขายสลากกินแบ่ง บอกว่า เคยได้ยินจากคนอื่นว่า น.ส.ณัฐนันท์ และสามี มาซื้อสลากกินแบ่งที่นี้แล้วถูรางวัลที่ 1 จริง แต่ไม่รู้ซื้อกับใคร เพราะวันนั้นมีคนขายสลากกินแบ่งอยู่ 3 เจ้า เจ้าหนึ่งเป็นผู้ชายสูงอายุ ส่วนอีกเจ้าเป็นผู้หญิง และอีกเจ้าเป็นเด็กมาขาย ซึ่งตนได้ยินจากเพื่อนว่า น.ส.ณัฐนันท์ และสามี ซื้อกับเด็ก แต่เด็กคนนั้นไม่ได้มาขายแล้ว เนื่องจากติดโควิด-19 จึงไม่รู้ซื้อกับใครกันแน่

ด้านพระอาจารย์สุเทพ สฺเทวโล พระดูแลวิหารหลวงพ่อขันธ์ พระลูกวัดพระศรีอารย์ ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อ 3 วันก่อน หลัง น.ส.ณัฐนันท์ จะเป็นข่าว อาตมาได้พบ น.ส.ณัฐนันท์ มาที่วัดพระศรีอารย์ กับเพื่อน 2 คน เพื่อมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อขันธ์ ให้ชนะคดี ตอนแรกอาตมาไม่รู้ว่าเขามีเรื่องเดือดร้อนอะไร อาตมาก็ให้ธรรมะไป และ น.ส.ณัฐนันท์ จึงระบายออกมาว่า ถูกรางวัลที่ 1 และถูกผัวโกงไป พรุ่งนี้จะไปฟ้องทนาย อาตมาจึงกลัวว่า น.ส.ณัฐนันท์ จะคิดมากและจะคิดสั้น จึงมานั่งฟัง น.ส.ณัฐนันท์ ระบายความทุกข์ให้ฟัง พอฟังจบจึงพยายามให้ธรรมะสอนใจ ซึ่ง น.ส.ณัฐนันท์ ก็รู้สึกดีขึ้น แต่อาตมาไม่รู้ว่า น.ส.ณัฐนันท์ กับสามีมาซื้อสลากกินแบ่งที่วัดเมื่อไหร่ 

ส่วนพระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ เปิดเผยว่า กรณี น.ส.ณัฐนันท์ อ้างว่ามาซื้อสลากที่วัด จึงอาจเป็นไปได้ เพราะอาตมารู้สึกคุ้นหน้าว่าเคยมาทำบุญที่วัด แต่จำไม่ได้ว่ามากับสามีหรือไม่ เพราะในช่วงนั้นมีญาติโยมเข้ามาที่วัดกันเยอะมาก และไม่สามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าวิหารหลวงพ่อขันธ์ได้ เนื่องจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้บันทึกภาพได้แค่ 7 วัน แต่เหตุการณ์ของ น.ส.ณัฐนันท์ ผ่านมากว่า 4 เดือนแล้ว. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]