fbpx

อาเซียน-จีนจับมือสู้โควิด-19 เร่งช่วย Start Up – SME

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน – จีน ออกถ้อยแถลงร่วมต่อสู้โควิด-19 เร่งช่วย Start Up และ SME ผ่าน FTA อาเซียน – จีน 


นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและจีนได้ร่วมกันออกถ้อยแถลงว่าด้วยการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการกระชับความร่วมมือภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–จีน โดยถ้อยแถลงดังกล่าว เน้น 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและขยายการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนกับจีน ผ่านความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–จีน 2.การบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 และ 3. การใช้มาตรการเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นและเสถียรภาพของเศรษฐกิจในภูมิภาค  

นายวีรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นว่านับตั้งแต่ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–จีน (ACFTA) บังคับใช้เต็มรูปแบบปี 2553 การค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน 2 ฝ่าย เติบโตถึงร้อยละ 111 จาก 235,500 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 497,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2562 ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์โควิด–19 จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่การค้าระหว่างอาเซียนและจีนยังคงมีแนวโน้มเชิงบวก โดยจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของภูมิภาค และเห็นว่าควรใช้ความตกลง ACFTA กระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมถึงหาแนวทางปรับปรุงการเปิดตลาดภายใต้ความตกลงฯ โดยเฉพาะการขจัดอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี การส่งเสริมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ทั้งเชิงลึกและเชิงกว้าง เพื่อทำให้การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคมีความลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น


นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นว่าควรพัฒนาแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจร่วมกัน ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการแบ่งปันองค์ความรู้ ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติระหว่างกัน เพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาดและปรับปรุงเสถียรภาพของเศรษฐกิจในภูมิภาค และให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือภาคเอกชน โดยเฉพาะธุรกิจ Start-Up และธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็กและขนาดย่อม (MSMEs) รวมทั้งรักษาตลาดที่เปิดกว้าง ส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน เพื่อรักษาห่วงโซ่การผลิตระดับภูมิภาคและโลก รวมทั้งการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการที่จำเป็นให้สะดวกขึ้น ตลอดจนส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและการค้าดิจิทัล ทั้งนี้ สำหรับการใช้มาตรการทางการค้าต่าง ๆ อาเซียนและจีนเห็นว่าควรมีความชัดเจน โปร่งใส และคำถึงมาตรฐานและข้อเสนอแนะขององค์การศุลกากรโลก และพันธกรณีภายใต้องค์การการค้าโลก 

ทั้งนี้ จีนถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของอาเซียน ปี 2562 อาเซียนส่งออกไปจีนมูลค่า 201,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก เคมีภัณฑ์อินทรีย์และเบ็ดเตล็ด อัญมณีและโลหะมีค่า เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ผลไม้ รองเท้า และสัตว์น้ำ (กุ้งและปู) เป็นต้น และอาเซียนนำเข้าจากจีนมูลค่า 296,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก และส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ ส่วนปมหลอกนายกฯ ยืนยันเป็นตำรวจตัวเล็กจะไปทำกับผู้นำประเทศได้อย่างไร ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่กระทบบริหารตำรวจทั่วประเทศ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว