สตูล 29 พ.ค.- หลังเกิดเหตุการณ์ปลาฉลามกัดเท้าเด็กในคลองเจ๊ะบิลัง จ.สตูล จนเป็นแผลฉกรรจ์ขณะนั่งเรือแล้วห้อยขาลงไปในคลอง ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัยากรทางทะเลจังหวัดสตูล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุว่าอาจเป็นปลาฉลามหัวบาตรหลังเรียบ ที่เกิดอาการตกใจจากแรงกระเพื่อม ขณะเด็กแกว่งขาลงไปในน้ำ
นายโสภณ อ่อนคง ประมงจังหวัดสตูล พร้อมนายวิทยา ขุนสัน ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดสตูล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงไปดูที่เกิดเหตุคลองเจ๊ะบิลัง ใกล้กับท่าเรืออเนกประสงค์ หมู่ 2 ต.เจ๊ะบิลัง ย่านชุมชนที่มีบ้านชาวบ้านอยู่หนาแน่น และมีเรือประมงของชาวบ้านจอดเรียงราย โดยบริเวณดังกล่าวอยู่ห่างจากทะเลอันดามันเข้ามา 2 กิโลเมตร
จากนั้นไปเยี่ยมดูอาการ ด.ช.ฮารอฟัด ลิ่มอภิชาติสกุล อายุ 12 ปี ที่บ้านพักในหมู่ 2 ต.เจ๊ะบิลัง อ.เมืองสตูล พบว่าบริเวณฝ่าเท้าด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์รอบฝ่าเท้ายาว 15 เซนติเมตร แพทย์เย็บแผลและพันแผลเรียบร้อย
ด.ช.ฮารอฟัด เล่าว่า ขณะลงเล่นน้ำกับเพื่อนๆ เมื่อตอนเที่ยงวานนี้ นั่งบนเรือและห้อยขาลงไปในคลอง มีปลาฉลามยาวขนาด 1 เมตร ว่ายมากัดเท้าตนรู้สึกเจ็บปวดและมีเลือดไหล จากนั้นรถกู้ชีพนำตัวส่งโรงพยาบาลสตูล
ด้านนางนิภา ประชา แม่ ด.ช.ฮารอฟัด เล่าว่า ตอนที่ลูกชายขึ้นจากน้ำและนำส่งโรงพยาบาลสังเกตเห็นบาดแผลมีรอยลึกถึงกระดูก ก่อนหน้านี้น้องชายของ ด.ช.ฮารอฟัด ก็ถูกสัตว์น้ำกัดที่บริเวณขาเย็บไป 6 เข็ม ขณะลงไปเล่นน้ำที่บริเวณเดียวกัน
นายวิทยา ขุนสัน ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัยากรทางทะเลจ.สตูล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า สัตว์น้ำที่กัด ด.ช.ฮารอฟัด น่าจะเป็นลูกปลาฉลามหัวบาตรหลังเรียบ ซึ่งออกไปหากินในช่วงบริเวณปากแม่น้ำ หรือเข้าไปในคลองกินสัตว์ทะเลทั่วไป ส่วนสาเหตุที่กัดเด็กน่าจะมาจากที่ปลาฉลามตกใจ และอาจมีปัจจัยหลายอย่าง พอ ด.ช.ฮารอฟัด แกว่งขา ฉลามเข้าใจว่าเป็นเหยื่อ แต่หากมองในแง่ดี การที่พบปลาฉลามทำให้มองว่าธรรมชาติเราสมบูรณ์ อีกทั้งสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวและทำให้ไม่มีการทำประมงผิดกฎหมายจับสัตว์น้ำในแหล่งหวงห้าม.-สำนักข่าวไทย