กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – ผอ.กพท.ยอมรับเดือนพฤษภาคมคนใช้บริการสายการบินยังไม่คึกคัก แต่คาดหลัง ศบค.ผ่อนปรนระยะ 3 จะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า หลังจากสายการบินโลว์คอสและสายการบินปกติบางแห่ง ได้ทยอยกลับมาให้บริการเดือนพฤษภาคม พบว่าปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารยังไม่มาก โดยจะมีประชาชนเดินทางส่วนใหญ่ในช่วงเช้าและเย็น และในช่วงวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เนื่องจากส่วนหนึ่งมาจากยังติดการประกาศเคอร์ฟิว และบางจังหวัดปลายทางยังปิดการเดินทางข้ามจังหวัดอยู่
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) วันนี้ (29 พ.ค.) และคาดว่าจะมีประกาศผ่อนปรนระยะ 3 หากการผ่อนปรนครอบคลุมถึงบริการงานท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร และพื้นที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดสำคัญ ก็จะทำให้ความต้องการใช้บริการของผู้โดยสารอากาศยาน เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยภาพรวม กพท.มั่นใจว่าตั้งแต่เดือนเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปปริมาณการเดินทางโดยอากาศยานจะเพิ่มขึ้นแน่นอนตามทิศทางการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่เป็นไปในทิศทางที่ดี
ส่วนประเด็นการกลับมาทำการบินของ บมจ.การบินไทย ซึ่งมีการประชุมบอร์ดนัดแรกวันนี้ หลังมีการตั้งกรรมการใหม่เข้าไปดูแลแผนฟื้นฟู และคาดว่าจะมีการหารือเรื่องความชัดเจน เรื่องกำหนดเวลาการกลับมาทำการบินอีกครั้ง เพื่อให้บริษัทมีรายได้โดยเร็ว โดยเฉพาะเส้นทางในประเทศ ขณะที่เส้นทางบินระหว่างประเทศยังต้องมีการเฝ้าระวังการระบาดในหลายประเทศ และ กพท.ได้ออกประกาศระงับการบินระหว่างประเทศ ตลอดเดือนมิถุนายน 2563 ไปแล้ว โดยนายจุฬา ระบุว่า การบินไทยได้แจ้งขอเลื่อนทำการบินสำหรับเส้นทางบินในประเทศไปตลอดเดือนมิถุนายนมาแล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีความประสงค์กลับมาทำการบิน ก็สามารถดำเนินการได้ โดยแจ้งให้ กพท.ทราบอีกครั้ง เช่นเดียวกับสายการบินอื่น ๆ เหมือนกรณีบางกอกแอร์เวย์ส ที่แจ้งหยุดการบิน แต่ล่าสุดก็ได้กลับมาบินเส้นทางไปสมุย แล้ว
อย่างไรก็ตาม การจะกลับมาบินในประเทศของการบินไทยอาจจะต้องพิจารณารายละเอียดมากกว่าสายการบินอื่น เนื่องจากการบินไทยใช้เครื่องขนาดใหญ่ต้องพิจารณาจำนวนผู้โดยสารที่เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุน รวมถึงการควบคุมบริการบนอากาศยาน ที่ขณะนี้ยังมีประกาศห้ามบริการลักษณะ Full Service เสิร์ฟอาหารในเครื่องบินขณะนี้.-สำนักข่าวไทย
