กทม.29พ.ค.-รถไฟฟ้าล้อยางไร้คนขับขบวนแรกของไทยมาแล้ว หลังเลื่อนจาก เม.ย.เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ถึงไทย 10 มิ.ย.นี้ เตรียมพร้อมขึ้นโรงจอดลอยฟ้าโครงการ “รถไฟฟ้าสายสีทอง” ที่สถานีกรุงธนบุรี พร้อมให้บริการชาวกรุงภายในเดือน ต.ค.63
นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) วิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร(กทม.)เปิดเผยความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทองช่วง สถานีกรุงธนบุรี-สถานีสำนักงานเขตคลองสาน (รถไฟฟ้าสายสีทอง) ที่กรุงเทพธนาคมได้รับมอบหมายจาก กทม.ให้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเชื่อม ต่อการเดินทางล้อ ราง เรือ เพื่อคนกรุงเทพฯ ว่า หลังจากการระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กำหนดการจัดส่งขบวนรถไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง ต้องเลื่อนจากเดือนเม.ย.63 ที่กำหนดไว้เดิม ล่าสุดขณะนี้บริษัทผู้ผลิตในจีนได้จัดส่งขบวนรถไฟฟ้าในเส้นทางดังกล่าวมาแล้ว โดยขบวนรถจะมาถึงไทย ในวันที่ 10 มิถุนายน 2563 นี้ โดยจัดส่งมาก่อน 1 ขบวน มี 2 ตู้โดยสาร จากจำนวนที่จัดซื้อทั้งหมด 3 ขบวน โดยขบวนที่เหลือจะจัดส่งมาภายหลัง
นายมานิต กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง จะใช้รถ รุ่น Bombardier Innovia APM 300 ซึ่งผลิตจากเมืองอู่หู มณฑลอานฮุย สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อรถมาถึงและผ่านพิธีการทางศุลกากรแล้วจากนั้นจะมีการนำขบวนรถไฟฟ้ายกขึ้นสู่โรงจอดและซ่อมบำรุงที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อเตรียมการทดสอบระบบในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ย.และทดสอบการเดินรถเสมือนจริง (Trial Running) ในเดือน ก.ย.ก่อนเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือน ต.ค.63 นี้ ซึ่งกำลังเร่งรัดงานในส่วนที่ล่าช้าจากผลกระทบโควิด-19
“รถไฟฟ้ารุ่นBombardier Innovia APM 300 มีความพิเศษคือเป็นระบบที่ใช้เป็นรถไฟฟ้ารูปแบบไร้คนขับโดยใช้รางนำทาง มีผิวสัมผัสระหว่างล้อและทางวิ่งเป็นยาง ซึ่งจะทำให้เกิดความนุ่มนวลและก่อให้เกิดเสียงรบกวนต่ำ ความเร็วการทำงานสูงสุดที่ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขบวนรถที่ใช้ในระบบมีทั้งหมด 3 ขบวน ขบวนละ 2ตู้ โดยใช้รับส่งผู้โดยสารจำนวน 2 ขบวน และสำรองไว้ในระบบ 1 ขบวน ความจุผู้โดยสาร 137 คน/ขบวน รถไฟฟ้ามีความกว้าง 2.8 เมตร ความยาว12.75 เมตร ความสูง 3.5 เมตร ประตูมีความกว้าง 1.9 เมตร ความสูงของพื้นรถ 1.1 เมตร น้ำหนัก 16,300 กิโลกรัม” นายมานิต กล่าว
นายมานิต กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้างานก่อสร้างโรงจอดและซ่อมบำรุง รวมถึงสถานีกรุงธนบุรี (G1) สถานีเจริญนคร (G2) และสถานีคลองสาน (G3) มีความก้าวหน้าในภาพรวมร้อยละ 88 แบ่งออกเป็นความก้าวหน้างานโยธาร้อยละ 93 และความก้าวหน้างานระบบการเดินรถร้อยละ 81
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่และการท่องเที่ยวย่านฝั่งธนบุรี โดยจะมีสวนพระปกเกล้าสกายปาร์คแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ และโครงการยังเชื่อมต่อการเดินทางของเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย .-สำนักข่าวไทย