ภูมิภาค 27 พ.ค. – แม้สถานการณ์โควิด-19 ของไทยจะเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายอาชีพที่ยังไม่ได้รับการผ่อนปรน ต้องผันตัวเองไปทำอาชีพอื่น เพื่อเอาตัวรอดหาเลี้ยงครอบครัว
ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ ขี่ จยย.พ่วงขายของชำ
นายยุทธพล จิตรมา ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ประจำศูนย์ข่าว จ.เชียงใหม่ ใช้เวลาว่างหลังเลิกงานขี่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงแบบรถสกายแล็บ ขายของชำบริเวณริมถนนคันคลองชลประทาน หน้าทางเข้าแหล่งท่องเที่ยวห้วยตึงเฒ่า สินค้าที่ขายมีทั้งปลาตากแห้งจากอำเภอดอยเต่า ผักสวนครัวจากโครงการทหารพันธุ์ดี ซึ่งเจ้าตัวจะไปเลือกซื้อเองทั้งหมด แล้วนำมาใส่รถขาย ขายมาได้เกือบ 1 เดือน ได้กำไรนิดหน่อยวันละ 200-300 บาท ลูกค้าที่มาอุดหนุนส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มาเดินและวิ่งออกกำลังกายริมถนน มาแวะซื้อปลาแห้งและผักสดไปทำอาหาร ทุกวันจันทร์ถึ-ศุกร์ หลังเลิกงานจะขี่รถสกายแล็บมาจอดขายตั้งแต่ 17.30 น. ถึงจะได้กำไรไม่มาก แต่ก็ถือเป็นรายได้เสริมจากงานสุจริต และตั้งใจจะขายของแบบนี้ไปเรื่อยๆ
สาวใหญ่ขับรถตู้รับส่งนักเรียนพลิกวิกฤติขายส้มตำ
อีกรายคือนางวีรวัลย์ เขียวชะอุ่ม ชาวอำเภอสารภี อาชีพขับรถตู้รับส่งนักเรียน ได้รับผลกระทบเนื่องจากโรงเรียนหยุดยาว จึงเปิดร้านขายส้มตำและอาหารอีสาน ตั้งแต่ช่วงกลางวันถึงเย็น มีลูกสาวเป็นลูกมือ ปรากฏว่าขายดีมีลูกค้าอุดหนุนต่อเนื่อง รายได้ดีไม่แพ้ขับรถรับส่งนักเรียน แม่ค้าส้มตำบอกว่า ถ้าโรงเรียนเปิดก็ต้องกลับไปขับรถรับส่งนักเรียนเหมือนเดิม แต่ก็เสียดายรายได้จากการเปิดร้านขายส้มตำ ถ้าเป็นไปได้ก็อาจจะจัดสรรเวลา หรือหาคนมาช่วยร้านส้มตำ เพื่อให้มีรายได้ทั้งสองทาง
เชฟโรงแรมดัง ผันตัวเองมาขายซูชิ คำละ 10 บาท
นายสมจิตต์ ไวทำ เชฟอาหารญี่ปุ่นชื่อดังของเมืองพัทยา ผันตัวเองมาขายซูชิคำละ 10 บาท ระหว่างรอโรงแรมเปิด หลังจากโรงแรมในเมืองพัทยาทั้งหมดต้องปิดชั่วคราวจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้พนักงานโรงแรมว่างงานและขาดรายได้ นายสมจิตต์ บอกว่า เป็นเชฟอาหารญี่ปุ่นมานานกว่า 27 ปี นำความรู้ความชำนาญมาทำซูชิขายที่ตลาดใหม่นาเกลือ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ มีลูกค้าทยอยเข้ามาอุดหนุนต่อเนื่อง ตนใช้วัตถุดิบที่ใกล้เคียงกับที่เคยใช้ในโรงแรม แต่ขายในราคาถูก และมีหน้าให้เลือกมากกว่า 17 หน้า เพื่อให้ทุกคนได้ชิมฝีมือเชฟอย่างทั่วถึง
คณะลิเกวอนรัฐช่วยผ่อนปรนให้กลับมาทำการแสดงได้
ส่วนสภาวัฒนธรรม จ.ฉะเชิงเทรา ลงมาช่วยเหลือดูแล เมฆินทร์ สุคนธา และลูกน้องในคณะลิเก รวมกว่า 100 คน ทั้งฝ่ายของลิเก ฝ่ายนักดนตรี ทั้งดนตรีไทย ดนตรีสากล ฝ่ายเวที ฉาก แสงสีเสียง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการไม่มีงานแสดงและขาดรายได้ช่วงโควิด-19 ระบาด จนได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท จากรัฐบาลครบทุกคน แต่สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือการประกอบอาชีพ แม้จะมีเจ้าภาพมาจ้างงานและทางคณะจะมีมาตรการในการป้องกันโควิดอย่างดี แต่ก็ยังถูกปฏิเสธจากทางวัดซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ โดยระบุว่าเป็นคำสั่งของจังหวัด จึงวอนขอให้รัฐบาลช่วยผ่อนปรนให้อาชีพด้วย เพราะทุกคนกำลังจะอดตาย ไม่มีรายได้มาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวหลายเดือนแล้ว . – สำนักข่าวไทย