“อุตตม” ยัน พ.ร.ก. เราไม่ทิ้งกัน โปร่งใส-ตรวจสอบได้

รัฐสภา 27 พ.ค.-“อุตตม” ยัน พ.ร.ก. เราไม่ทิ้งกัน โปร่งใส-ตรวจสอบได้ ต้องรายงาน ครม. และสภาฯ มั่นใจไม่กระทบเสถียรภาพการเงินประเทศ


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงเกี่ยวกับการกู้เงินตามพระราชกำหนดระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทเท่านั้น ไม่กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท เพราะส่วนที่เหลือไม่ได้ใช้เงินกู้ แต่เป็นสภาพคล่องที่มีอยู่ในระบบอยู่แล้ว โดยให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำสภาพคล่องมาใช้แก้ไขปัญหาเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับประเทศเท่านั้น สถานการณ์โควิด-19 เป็นวิกฤติทางสาธารณสุขที่ส่งผลมาถึงเศรษฐกิจ เป็นวิกฤติในระดับโลก หลายประเทศทั่วโลกเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจหดตัวรุนแรงไม่ต่างกัน เราไม่ได้สบายใจ เพราะผลกระทบจะเกิดขึ้นรุนแรงแน่นอน ซึ่งเป็นผลกระทบที่เฉียบพลัน

ดังนั้น เป้าหมายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา คือ 1.การดูแลเยียวยาผลกระทบที่เกิดกับประชาชนและผู้ประกอบการในทันที เพื่อให้มีเงินในกระเป๋าเพียงพอที่จะยังชีพในภาวะเศรษฐกิจหดตัว เงินในกระเป๋าเป็นสิ่งจำเป็นต้องให้ทันที 2.การดูแลผู้ประกอบการในระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะรายเล็กหรือ SME เป็นผู้ที่จ้างงานร้อยละ 80 ของการจ้างงานทั้งหมดในประเทศก็กระทบต่อธุรกิจของเขาและกระทบมาที่เงินในกระเป๋าของประชาชน และจะเป็นวัฏจักรที่กลับไปกระทบต่อการทำธุรกิจต่อเศรษฐกิจโดยรวม และ 3.การพยายามปกป้องและรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจทั้งตลาดการเงินและตลาดทุนของประเทศ ทุกภาคส่วนวันนี้มีความเชื่อมโยงถึงกันหมด


“สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนกับสถานการณ์เมื่อปี 2540 ที่เป็นวิกฤติระดับภูมิภาคและไม่มีเรื่องความเป็นความตายของประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้องจากเป้าหมายที่มีรัฐบาลได้กำหนดแนวทางที่ใช้กันทั่วโลก โดยองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ไอเอ็มเอฟ ธนาคารโลก ได้เสนอแนวทางเชิงนโยบายให้ประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่ให้มุ่งเน้นช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางก่อน และใช้มาตรการทางการคลังในวงกว้างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งเป็นแนวทางสากลที่ช่วยเหลือประชาชน การกู้เงินเรามีกรอบที่รัดกุมไม่ได้แตกต่างจากอดีตและการประเมินผลงานก็ใช้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะและสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเข้ามาดำเนินการ อย่างโครงการไทยเข้มแข็ง และ พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ และกรณีเราไม่ทิ้งกัน ก็มีวัตถุประสงค์ของการตราพระราชกำหนดไม่แตกต่างกัน ถามว่าการกู้เงินครั้งนี้สมเหตุสมผลหรือไม่นั้นรัฐบาลได้พิจารณาด้วยความรอบคอบ การเยียวยาและการเพิ่มสภาพคล่องเข้าไปในระบบ การกู้เงินครั้งนี้คิดเป็นร้อยละ 6 ต่อจีดีพี หรือร้อยละ 31 ของงบประมาณประเทศ เรามีสัดส่วนการกู้เงินครั้งนี้ไม่ได้กระโดดจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้น เพราะเป็นการกู้เงินในภาวะวิกฤติ” นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม กล่าวว่า การกู้เงินครั้งนี้เราอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายและวินัยการเงินการคลัง ซึ่งในอดีตไม่มีกฎหมายดังกล่าว ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณากรอบการบริหารหนี้สาธารณะภายหลังมีการกู้เงิน 1 ล้านล้านบาทแล้ว ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 ยังอยู่ในกรอบของกฎหมายแทบทั้งสิ้นผ่านตัวชี้วัดทั้ง 4 ตัว ได้แก่ 1.สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะอยู่ที่ร้อยละ 57.96 จากกรอบของกฎหมายที่กำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 60 2.สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ ร้อยละ 21.2 จากกรอบของกฎหมายที่กำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 35 3.สัดส่วนหนี้สาธารณะเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมดอยู่ที่ร้อยละ 2.53 จากกรอบของกฎหมายที่กำหนดไว้ไม่เกิน ร้อยละ10 และ 4.สัดส่วนหนี้สาธารณะต่างประเทศต่อรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการอยู่ที่ร้อยละ 0.19 จากกรอบของกฎหมายที่กำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 5

“ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉียบพลันจริงๆ ผมเชื่อว่า ส.ส.ก็ไม่ใครคาดคิดได้ก่อนว่าจะมาแรงขนาดนี้ การดำเนินการเยียวยาก็ต้องดำเนินการให้เร็วเช่นกัน ความล่าช้ายอมรับว่าต้องใช้เวลาเพราะเรากำลังใช้งบประมาณแผ่นดินที่ต้องรัดกุม และข้อมูลที่ใช้นั้นข้อมูลประเทศไทยไม่ได้มีความพร้อมที่จะดำเนินการเยียวยาได้เร็วอย่างที่ควรจะเป็น อย่างผู้ประกอบอาชีพอิสระเราไม่ได้มีข้อมูลว่าเป็นใครที่ไหนบ้าง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องให้มีการลงทะเบียน ครั้นจะจ่ายแบบทุกคน ถ้าทำได้ก็ดี แต่ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดในแง่งบประมาณเช่นกัน” นายอุตตม กล่าว


นายอุตตม กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยสำหรับภาระที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราไม่ได้นิ่งนอนใจต่อตัวเลขหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ทุกหน่วยงานจะดูแลให้ความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจของเรายังคงอยู่และต้องเป็นไปตามกฎหมายของประเทศ เรายอมรับว่ามีปัญหาและล่าช้าบ้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยดำเนินการเรื่องนี้ ไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เช่น อาชีพอิสระเราไม่ได้มีถังข้อมูลที่จะชี้ชัดว่าอาชีพอิสระอยู่ที่ไหนใครบ้างเป็นเหตุผลที่ทำไมต้องเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อให้ประชาชนเข้ามา ถ้าทำได้ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดเรื่องงบประมาณเช่นกันและทรัพยากรที่มีอยู่ ต้องเน้นที่ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงก่อน แต่เรามีการดูแลทุกประเภท เช่น แรงงานอิสระ เกษตรกร แรงงานในระบบ เจ้าหน้าที่ส่วนภาครัฐก็มีการดูแลอยู่ตามปกติอยู่แล้ว 

“ยอมรับว่ามีความล่าช้า และมีปัญหาอยู่บ้างเพราะเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยดำเนินการในเรื่องนี้ และรับฟังข้อชี้แนะนำทุกอย่าง ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ทำงานหนักจริง ๆ โดยมีการนำมาปรับปรุงปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยรัฐบาลจะดูแลให้ดีที่สุด แม้วิกฤติจะพ้นไป แต่ยังต้องดูแลต่อเนื่องทั้งการฟื้นฟู และคำนึงถึงข้อมูลที่ได้มาเพื่อจะได้นำไปใช้ เช่น อาชีพอิสระเป็นโอกาสให้เราได้เก็บข้อมูลจำนวนมากที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายบริหารประเทศในอนาคต” นายอุตตม กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง