อุบลราชธานี 27 พ.ค.- หน่วยบินกองทัพอากาศนำเครื่อง C130 ขนข้าวสารหอมมะลิจากทุ่งกุลาร้องไห้ จ.ศรีสะเกษ แลกปลากับชาวเลพังงา ตามโครงการแลกเปลี่ยนสินค้าฯ สำหรับการบริโภคในครัวเรือน สู้ภัยโควิด-19 ต่อยอดค้าขายระหว่างกันในอนาคต
วันนี้ (27 พ.ค.) ที่กองบินที่ 21 จ.อุบลราชธานี พลอากาศโท ตรีพล อ่องไพฑูรย์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ และนาวาอากาศเอกวัชรพล นวลเป็นใย ผู้บังคับการกองบิน 21 นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมส่งมอบ “ข้าวหอมมะลิ 10 เปอร์เซ็นต์ และข้าวหอมมะลิเอไรซ์” น้ำหนัก 10 ตัน ของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.ศรีสะเกษ นำไปแลกเปลี่ยนกับ ปลาฉิ้งฉ้าง หรือปลากะตัก และกะปิของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.พังงา จำกัด โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เพื่อเป็นการกระจายอาหารทะเลคุณภาพมีโภชนาการสูงจากชาวเล ให้ชาวนาในภาคอีสานที่มีข้าวหอมมะลิชั้นเลิศจากแหล่งปลูกทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นที่รู้จักดีของคนทั่วโลก
พลอากาศโท ตรีพล กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการต่อเนื่องการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างชุมชน ที่รัฐบาลและกองทัพอากาศให้ความสำคัญ โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้เกษตรกรทั้งสองฝ่ายที่มีการหารือได้ประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนอาหารระหว่างกัน ซึ่งจะสร้างความเข้มแข็ง สร้างความร่วมมือระหว่างเกษตรกรด้วยกันเองในอนาคต โดยวันนี้กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบินลำเลียงซี 130 เข้ามาสนับสนุนการขนข้าวไปแลกปลา เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพทำประมงในพื้นที่จังหวัดพังงา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพราะพ่อค้า แม่ค้า ตลอดจนร้านอาหาร สถานบันเทิง โรงแรม ต้องปิดกิจการจากการล็อกดาวน์ ไม่สามารถขายปลาทะเลที่หามาได้ ทำให้ขาดรายได้และไม่มีเงินซื้อข้าวสาร รวมทั้งปลาทะเลที่หามาได้ ก็ถูกทิ้งไว้จนเน่า เสียหาย
ด้านนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่กองทัพอากาศมาเป็นสะพานเชื่อม โดยนำข้าวของจังหวัดศรีสะเกษที่เป็นข้าวจากทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งดีที่สุดของประเทศไทย แลกปลาชาวเล จ.พังงา ซึ่งเป็นปลาที่มีคุณภาพก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แม้มีมูลค่าไม่มาก แต่ในอนาคตหลังจากวิกฤติโควิด 19 สหกรณ์ของสองจังหวัดที่มีความสัมพันธ์กัน มีโอกาสแลกเปลี่ยนสินค้าที่มีคุณค่าทางโภชนาการในกลุ่มสหกรณ์การเกษตรต่อไปด้วย.-สำนักข่าวไทย