ทำเนียบรัฐบาล 26 พ.ค. – ครม.อนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง วงเงิน 10,300 ล้านบาท ช่วยประมงพาณิชย์-พื้นบ้านทั่วประเทศ กว่า 2,800 ราย
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 ว่า ครม.อนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง วงเงินสินเชื่อรวม 10,300 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เพื่อเสริมสภาพคล่องในภาคกิจการประมง และเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการประมง จะได้มีเงินทุนในการปรับปรุงเรือ ติดตั้งอุปกรณ์ และจ้างแรงงานให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
โดยใช้วงเงินสินเชื่อจากธนาคารออมสิน จำนวน 5,000 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 5,300 ล้านบาท ให้กู้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ส่วนที่เหลือรัฐบาลเป็นผู้ชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลา 7 ปี นับแต่วันที่กู้
ในส่วนของการชดเชยดอกเบี้ย ครม.ได้อนุมัติกรอบวงเงินรวม 2,164.1 ล้านบาท เป็น 1)ค่าชดเชยดอกเบี้ยธนาคารออมสิน ปีละ 150 ล้านบาท รวม 1,050 ล้านบาท และค่าชดเชยดอกเบี้ย ธ.ก.ส.ปีละ 159 ล้านบาท รวม 1,113 ล้านบาท โดยให้ธนาคารขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีจากสำนักงบประมาณตามที่เกิดขึ้นจริง 2)ค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการของกรมประมงและติดตามประเมินผล รวม 1.1 ล้านบาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของกรมประมงคล่องในการประกอบอาชีพประมง
โครงการนี้เป็นการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้านที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ โดยยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส แยกตามขนาดเรือประมง กรณีผู้ประกอบการมีเรือทั้ง 2 ขนาด ให้ผู้ประกอบการยื่นขอสินเชื่อได้เพียงแห่งเดียว ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข คือ
1)ธนาคารออมสิน วงสินเชื่อรวม 5,000 ล้านบาท ปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการที่มีเรือประมงขนาดตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไป สูงสุดไม่เกินรายละ 10 ล้านบาท
2)ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร วงสินเชื่อรวม 5,300 ล้านบาท ปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการที่มีเรือประมงขนาดต่ำกว่า 60 ตันกรอส สูงสุดไม่เกินรายละ 5 ล้านบาท
โดยปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ส่วนที่เหลือรัฐบาลเป็นผู้ชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลา 7 ปี นับแต่วันที่กู้
ทั้งนี้ สินเชื่อมี 2 ประเภท คือ 1)เงินกู้ระยะสั้น เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ 2)เงินกู้ระยะยาว เป็นเงินทุนในการปรับปรุงเรือ ปรับเปลี่ยนเครื่องมือและอุปกรณ์ทำประมง
ด้านคุณสมบัติของผู้กู้
1)เป็นบุคคลธรรมดาอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ สัญชาติไทย หรือเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทย
2)เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองในเรือประมงที่มีทะเบียนเรือไทย
3)เป็นผู้มีประสบการณ์ทำอาชีพประมงมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
ส่วนหลักประกันการกู้สินเชื่อ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือใช้หลายอย่างรวมกัน ตามเงื่อนไขของธนาคาร
1)ที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง หรืออาคารชุด ที่มีเอกสารสิทธิสามารถจดทะเบียนจำนองได้
2)เรือประมง
3)บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)ค้ำประกัน
4)บุคคลค้ำประกัน
5)หลักประกันอื่นๆ ตามที่ธนาคารกำหนด
นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเสริมสภาพคล่องทั้งระยะสั้นและระยะยาวแก่ผู้ประกอบการประมงทั่วประเทศ 2,820 ราย รวมเรือประมง 4,822 ลำ แบ่งเป็นเรือประมงพาณิชย์ 4,384 ลำ และเรือประมงพื้นบ้าน 438 ลำ ให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพประมงได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป . – สำนักข่าวไทย