มาตรการภาษีลดผลกระทบโควิดกว่าแสนล้าน

กรุงเทพฯ  25 พ.ค. – กรมสรรพากรช่วยบุคคลและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านมาตรการภาษีกว่าแสนล้านบาท



นายเอกนิติ  นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรผลักดันมาตรการภาษีและการเร่งคืนภาษีกว่าแสนล้านบาท เยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งอยู่บนหลักปฏิบัติ 4 ประการ ได้แก่ “เลื่อน เร่ง ลด และแรงจูงใจ”


1. “เลื่อน” ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการ การนำส่ง และการชำระภาษีอากร เพื่อให้เงินหรือสภาพคล่องอยู่ในมือประชาชนและผู้ประกอบการให้ยาวนานขึ้น ในระหว่างที่ภาครัฐให้ความช่วยเหลือและเยียวยา เช่น ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90, 91, 93 และ 95) จากวันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นวันที่ 31 สิงหาคม 2563 นอกจากนี้ ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด. 50 และ 55) ที่ต้องชำระภายในเดือนเมษายน – สิงหาคม 2563 เป็นวันที่ 31 สิงหาคม 2563 รวมทั้งขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด. 51) ที่ต้องชำระภายในเดือนเมษายน – กันยายน 2563 เป็นวันที่ 30 กันยายน 2563 นอกจากนี้ กรมสรรพากรได้ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการฯ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ต้องชำระภายในวันที่ 15  หรือ 23 ของเดือนพฤษภาคม – กันยายน 2563 ขยายออกไปเป็นภายในสิ้นเดือนนั้น เพื่อลดความเสี่ยงและมีความคล่องตัวในการทำงานเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้ทุกคนอยู่บ้านภายใต้แนวคิด“อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ของรัฐบาลอีกทางหนึ่งด้วย

 2. “เร่ง” ผลักดันมาตรการเร่งคืนภาษีประชาชนและผู้ประกอบการให้เร็วที่สุด เพื่อเพิ่มเงินหรือสภาพคล่องให้อยู่ในมือประชาชนและผู้ประกอบการอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมสรรพากรเร่งคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไปแล้วกว่าร้อยละ 95 จากผู้ขอคืนทั้งหมดประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นภาษีที่คืนประมาณ 28,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 (ตุลาคม 2562 – เมษายน 2563) กรมสรรพากรเร่งคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลกว่า 27,185 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.7 จากปีก่อน

3. “ลด” ผลักดันมาตรการคืนสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศ โดยการลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายที่มีอัตราร้อยละ 3 ให้เหลือในอัตราร้อยละ 1.5 สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมินตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 กันยายน 2563 เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และเพื่อช่วยสนับสนุนการชำระเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ (e – Payment) โดยเฉพาะระบบ e – Withholding Tax กรมสรรพากรได้ผลักดันนโยบายลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายที่มีอัตราร้อยละ 3 ให้เหลือในอัตราร้อยละ 2 สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมินตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 –  31 ธันวาคม 2564 ที่จ่ายผ่านระบบ e – Withholding Tax นอกจากนี้กรมสรรพากรได้ผลักดันมาตรการภาษีเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยจ่ายของผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคลที่มีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท และมีการจ้างแรงงาน    ไม่เกิน 200 คน ตามมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) สามารถหักรายจ่ายได้ 1.5 เท่า สำหรับรายจ่ายดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 เมษายน  – 31 ธันวาคม 2563 ตามมาตรการข้างต้น


 4. “แรงจูงใจ” ผลักดันมาตรการภาษีเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชน ผู้ประกอบการ และบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ แรงจูงใจให้ผู้ประกอบการคงการจ้างงานในช่วงสถานการณ์ที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผู้ประกอบการที่มีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท และมีการจ้างแรงงานไม่เกิน 200 คน สามารถหักรายจ่ายได้ 3 เท่า สำหรับรายจ่ายค่าจ้างในช่วงเดือนเมษายน – กรกฎาคม 2563 แรงจูงใจให้เจ้าหนี้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 โดยการยกเว้นภาษีที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ แรงจูงใจให้มีการนำเข้า ยา เวชภัณฑ์ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโควิด-19 เพื่อบริจาคให้แก่สถานพยาบาล หน่วยงานของรัฐ ฯลฯ โดยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ผู้นำเข้าแรงจูงใจให้ประชาชนดูแลสุขภาพ โดยการเพิ่มวงเงินหักลดหย่อนค่าเบี้ยประกันสุขภาพในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่จ่ายจริงเพิ่มขึ้นจากไม่เกิน 15,000 บาท เป็นไม่เกิน 25,000 บาท แต่เมื่อรวมกับค่าเบี้ยประกันชีวิตและเงินฝากประเภทสงเคราะห์ชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท แรงจูงใจสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าตอบแทนที่ได้รับจากกระทรวงสาธารณสุข

นายเอกนิติ  กล่าวว่า มาตรการข้างต้นเป็นมาตรการระยะสั้น เพื่อดูแลและเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19  สำหรับระยะต่อไปกรมสรรพากรจะเร่งนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้นทั้งในช่วงเวลาที่ทุกคนอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติไปจนถึงเมื่อสถานการณ์เป็นปกติแล้วเพื่อให้เกิด Digital Transformation ทุกภาคส่วน โดยจัดทำระบบ Tax From Home ให้การยื่นแบบ แสดงรายการภาษี การชำระภาษี การคืนภาษี และการจดทะเบียนต่าง ๆ เป็นอิเล็กทรอนิกส์โดยสมบูรณ์ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนของผู้เสียภาษี และยังทำให้การดำเนินการทางภาษีเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น นอกจากนี้ กรมสรรพากรมุ่งเน้นการออกนโยบายภาษีที่ตรงกลุ่มให้บริการที่ตรงใจ และสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี และเราจะผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน “เราไม่ทิ้งกัน”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สหรัฐประกาศมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 36%

วอชิงตัน 8 ก.ค. – สหรัฐประกาศมาตรการล่าสุดเรียกเก็บภาษี 36% จากสินค้านำเข้าจากประเทศไทย โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังเตือนอย่างชัดเจนไม่ให้ไทยใช้มาตการตอบโต้ และเรียกร้องให้ประเทศไทยเปิดตลาดเพิ่มเติม การเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่นี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่แข็งกร้าวและกว้างขวางของวอชิงตัน เพื่อแก้ไขสิ่งที่พวกเขาถือเป็น “ความไม่สมดุลทางการค้า” กับคู่ค้าทั่วโลก ในจดหมายที่โพสต์บนแพลตฟอร์ม “ทรูธ โซเชียล” (Tuth Social) ของเขาในวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม นายทรัมป์ระบุว่าภาษีตอบโต้ 36% นี้จะใช้กับ “สินค้าไทยทุกประเภท นอกเหนือจากภาษีเฉพาะภาคส่วนที่มีอยู่” และจะเรียกเก็บกับสินค้าที่ขนส่งผ่านประเทศไทยเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีที่สูงขึ้นด้วย จดหมายของนายทรัมป์ยังระบุว่าอัตราภาษีนี้ยังน้อยกว่าสิ่งที่ประเทศไทยจำเป็นต้องทำเพื่อขจัดความไม่สมดุลทางการค้าที่สำคัญ เขายังกล่าวว่า จะไม่มีการเรียกเก็บภาษีหากประเทศไทย หรือบริษัทของไทย ตัดสินใจสร้างหรือผลิตสินค้าภายในสหรัฐ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยืนยันความต้องการที่จะทำการค้ากับประเทศไทยต่อไป แต่ยืนกรานว่าจะต้อง “สมดุลและเป็นธรรม”เขายังเชิญประเทศไทยให้เข้าร่วมเศรษฐกิจพิเศษของสหรัฐ โดยยอมรับว่าสหรัฐได้เจรจาการค้ากับประเทศไทยมาหลายปีแล้ว เนื่องจากปัญหาความไม่สมดุลที่ยืดเยื้อ นอกจากนั้นยังตือนว่า หากประเทศไทยตัดสินใจขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากภาษี 36% ที่ประกาศไปแล้ว นายทรัมป์ย้ำเหตุผลของเขาด้วยว่า การขาดดุลการค้าก่อให้เกิดภัยคุกคามที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของสหรัฐและความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ตาม จดหมายดังกล่าวยังเสนอแนวทางที่เป็นไปได้สำหรับการปรับปรุงอัตราภาษีด้วย นายทรัมป์ระบุว่าหากประเทศไทย […]

“แพทองธาร” เผย วธ. จ่อแจงปมกัมพูชาเสนอชุดไทยในงานแต่ง ขึ้นมรดกโลก

ทำเนียบ 8 ก.ค.-“แพทองธาร” เผย ก.วัฒนธรรม เตรียมแจงปมกัมพูชาเสนอชุดไทยในงานแต่ง ขึ้นทะเบียนมรดกโลก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี โดยผู้สื่อข่าวถามกรณีที่กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยคืนวัตถุโบราณ 20 ชิ้น โดยพร้อมจะออกค่าใช้จ่ายเอง นางสาวแพทองธาร ได้หันมาถามสื่อมวลชน ว่านึกว่าจะถามเรื่องชุดไทย ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า รวมถึงกรณีชุดไทยด้วย ที่กัมพูชาสอดแทรกขึ้นทะเบียนมรดกโลกในการแต่งงานแบบโบราณของกัมพูชา ไทยจะทำหนังสือทักท้วงเรื่องนี้หรือไม่โดย นางสาวแพทองธาร กล่าวว่ากระทรวงวัฒนธรรมกำลังเตรียมออกแถลงคำชี้แจงเรื่องนี้ จากนั้นนางสาวแพทองธาร ได้แวะเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สินค้าจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ “Taste of Southern อัตลักษณ์พื้นถิ่นจังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่มาจัดแสดงบริเวณโถงตึกบัญชาการ โดยอุดหนุนสินค้าเป็นผ้าซาตินสองผืนลายพระราชทานสิริราชพัสตราภรณ์.-316.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ ปูพรม 19 จุด ทลายเครือข่ายก๊กอาน คนสนิท “ฮุนเซน”

กทม. 8 ก.ค.-ตร.ไซเบอร์ ปูพรม 19 จุด เปิดยุทธการปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร ทลายเครือข่ายก๊กอาน เจ้าพ่อ crown casino คนสนิท “ฮุนเซน” ยึดรถหรู-เงิน 27 ล้าน เมื่อวันที่ 8 ก.ค. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ พล.ต.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้น 19 จุด ในพื้นที่ กทม.สมุทรปราการ ชลบุรี […]

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]