กรุงเทพฯ 25 พ.ค. – ปตท.ทำแผนใหม่เสนอแก่ สคร.ปรับแผนลงทุน หลังกำไรหดจากพิษโควิด-19 ใช้แผนโลกฟื้นตัวเร็ว
นางอรวดี โพธิสาโร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร บมจ.ปตท.เปิดเผยว่า ปตท.อยู่ระหว่างทำแผนรัฐวิสาหกิจใหม่ทั้งการลงทุน ประเมินผลดำเนินการ เสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ตามที่ สคร.ให้ทุกรัฐวิสาหกิจส่งแผนงานใหม่ หลังจากได้รับผบกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งในส่วนของ ปตท.ได้จัดทำแผนบนสมมุติฐานทั้งแบบเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวจากคุมการระบาดได้เร็วสุดประมาณเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป และกรณีเลวร้ายสุด การควบคุมการระบาดจะอยู่ในต้นปี 2564 อย่างไรก็ตาม แผนที่จะส่ง สคร. คือ แผนที่โลกฟื้นตัวได้เร็ว ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปได้จากกระแสข่าวการค้นพบวัคซีนและการคลายล็อกดาวน์หลายประเทศทั่วโลกจนส่งผลทำให้การใช้น้ำมัน ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขยับขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อกลุ่ม ปตท. โดยแผนนี้ ปตท.ได้ควบคุมค่าใช้จ่ายตัดลดงบที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน ซึ่งจะเสนอบอร์ด ปตท.อีกครั้งเร็ว ๆ นี้
โดยหนึ่งในมาตรการ คือ “ลด-ละ-เลื่อน” ลดงบลงทุนในปีนี้ได้ประมาณ 10-15% หลังจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 ขาดทุนสุทธิ 1,554 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขาดทุนสตอกราคาน้ำมันดิบ คิดเป็นส่วนของ ปตท. 35,000 ล้านบาท เนื่องจาก ปตท.ถือหุ้นของบริษัทในกลุ่ม รวมครึ่งหนึ่งที่ทั้งกลุ่มขาดทุนประมาณ 70,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปตท.ยังคาดว่าผลดำเนินการทั้งปี 2563 จะเป็นบวก เพราะประเมินว่าการขาดทุนสตอกผ่านช่วงเวลาขาดทุนสูงสุดไปแล้วในไตรมาส 1/2563 แม้ว่าเดือนเมษายนจะเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันตกต่ำสุด แต่ขณะนี้ขยับดีขึ้น จึงคาดว่าสิ้นไตรมาส 2/2563 ราคาน่าจะปรับตัวดีกว่าสิ้นไตรมาส 1/2563
“ปีนี้คาดว่าจะส่งเงินให้รัฐน้อยกว่าปีที่ผ่านมา เพราะไตรมาส 1/2563 ขาดทุน และยอดขาย ผลดำเนินงานขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจทั้งโลก ขณะที่เศรษฐกิจไทยหดตัว ปตท.ก็ทำแผนอิงการฟื้นตัวเร็ว เจอวัคซีนเร็ว แต่หาก ฟื้นตัวช้าไปจนถึงต้นปีหน้า เราก็ทบทวนใหม่ในการประชุมกลุ่มทุกกลางปี เพื่อปรับแผนประเมินทิศทางการลงทุนทุก 5 ปีข้างหน้า” นางอรวดี กล่าว
นางอรวดี ยังย้ำว่า ปตท.สามารถรักษาอันดับความน่าเชื่อถือระดับ BBB+ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับประเทศ โดยยังมีสภาพคล่องที่สูงและมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ ปตท.คาดว่าราคาน้ำมันดิบปี 2563 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 30-40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์ปี 2563 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.0-3.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงจากปี 2562
ทั้งนี้ ปตท.ได้ร่วมจัดทำ PTT group value chain optimization เพื่อการบริหาร อุปสงค์ อุปทาน ปริมาณสินค้าคงคลังให้เกิดประโยชน์สูงสุดมีการดำเนินการตามแนวทาง 4R’s ได้แก Resilience การปรับตัว สร้างความยืดหยุ่นให้กับองค์กรให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง , Restart เตรียมความพร้อมในการนำธุรกิจ พนักงาน ลูกค้าและคู่ค้า กลับสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด และรักษาความสามารถในการแข่งขัน , Re-imagination จัดเตรียมรูปแบบธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็น Next normal และ Reform จัดโครงสร้างองค์กรและธุรกิจให้สอดคล้องกับทิศทางในอนาคต และพร้อมรองรับทุกสภาวการณ์ที่ไม่คาดคิด
ในปีงบฯ 2562 (ต.ค.61-ก.ย.62) รัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงพลังงาน ทำรายได้แก่รัฐ รวมเป็นเงินกว่า 48,000 ล้านบาท โดย ปตท.นำส่งเป็นอันดับ 2 วงเงิน 29,198 ล้านบาท ส่วนอันดับ 3 คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือ กฟผ.นำส่งรายได้ 18,924 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย