สธ. 23 พ.ค. .- สธ. วางแนวทางให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน ยุค New Normal เน้นลดความเสี่ยง ควบคุมการแพร่กระจายเชื้อโควิด19
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ในยุควิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ว่า หัวใจสำคัญในการให้บริการทางการแพทย์ฉุกเฉินช่วงโควิด19 คือ การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อในห้องฉุกเฉิน ทั้งจากผู้ป่วยไปสู่ผู้ป่วย และผู้ป่วยไปสู่ผู้ให้บริการ และมีความปลอดภัยสำหรับทุกคน // มาตรการ 3 ส่วนสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น คือ 1.การคัดกรอง ตั้งแต่การซักประวัติอาการป่วย รวมไปถึงประวัติเสี่ยงติดเชื้อโควิด19 ต้องเว้นระยะห่าง ลดความแออัด การจัดคิวอย่างเหมาะสม 2. การจัดระบบบริการที่เหมาะสมทั้งการแต่งกายด้วยชุดป้องกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และพื้นที่ ที่เหมาะสม เช่น ห้องแยกโรคความดันลบ พื้นที่แยกโรคที่ชัดเจนสำหรับหัตถการละอองฝอยขนาดเล็ก และ 3.การใช้เทคโนโลยีเพื่อลดความแออัดในการมาโรงพยาบาล การใช้ระบบการให้คำปรึกษาทางไกล (Telemedicine Consult) กับผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง ร่วมกับระบบการจัดส่งยาและบริการอื่นๆ ถึงบ้าน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความปกติใหม่ที่จะเกิดขึ้นในการให้บริการทางแพทย์ในช่วงโควิด19ระบาด
พร้อมย้ำไปยังโรงพยาบาลในสังกัด ให้จัดรูปแบบการให้บริการห้องฉุกเฉินให้มีความปลอดภัยทั้งผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ และญาติผู้ป่วย และย้ำเรื่องการสวมหน้ากาก การคัดกรองประวัติของญาติที่จะมาเยี่ยมไข้ยังเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงในการนำเชื้อไปสู่ผู้ป่วย
ด้าน นพ.เฉลิมพล ไชยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์เขตสุขภาพที่ 10 (โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี) กล่าวว่า หัวใจสำคัญของห้องฉุกเฉิน คือ ต้องไม่แออัด มีการเว้นระยะห่าง และระบบความปลอดภัยของบุคลากรและผู้ป่วย การทำงานของห้องฉุกเฉินจะทำงานต่อเนื่องตั้งแต่จุดเกิดเหตุ การรักษาในห้องฉุกเฉินและส่งต่อการรักษากับแพทย์เฉพาะทางด้านอื่นๆ บุคลากรต้องปรับรูปแบบการทำงานให้เหมาะสม เพื่อลดขั้นตอนการดูแลผู้ป่วย เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ.-สำนักข่าวไทย