ทำเนียบฯ 22 พ.ค.- “วิษณุ” รองนายกฯ ระบุหลัง ก.คลัง ขายหุ้นการบินไทย 3% ก็จะไม่สามารถเข้าไปจัดการในการบินไทยได้อีก คาด 3 เดือน ได้ผู้บริหารแผนฟื้นฟู
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วานนี้ (21 พ.ค.) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มาขอความเห็นว่า จะดำเนินการอย่างไร หลังคณะรัฐมนตรีมีมติให้ บมจ.การบินไทย เข้าสู่แผนการฟื้นฟูตามกระบวนการศาลล้มละลาย
“ผมแจ้งไปว่า ให้ไปคิดต่อ โดยแนวทางเป็นไปตามกฎหมาย แต่เวลาปฏิบัติจริง ขึ้นอยู่กับบอร์ดการบินไทยเท่านั้น ณ วันนี้ นาทีนี้ การบินไทยถือว่ายังเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ และรัฐยังควบคุมอยู่ แต่ถ้ากระทรวงการคลังขายหุ้น 3% ให้กับผู้อื่นไป สัดส่วนของหุ้นจะลดลงจาก 51% เหลือ 48% จะส่งผลให้การบินไทยพ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจทันที ซึ่งกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบินไทยไม่ได้อีก และจะเป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่า ยังมีหุ้นอีก 52% ถ้าเขารวมกันติด เขาก็ใหญ่กว่า มันเป็นเหมือนบริษัทมหาชนธรรมดา” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่า หากหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ที่ 48% ไม่จำเป็นที่รัฐจะเข้าไปอุ้มอะไรแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอุ้ม ไม่เคยมีใครพูดถึงการอุ้ม ขืนไปอุ้มก็เป็นรัฐวิสาหกิจอีก จากนี้ กระทรวงการคลังต้องขายหุ้นในการบินไทย เพื่อลดสัดส่วนหุ้นลง ให้การบินไทยหลุดจากรัฐวิสาหกิจ เป็นบริษัทมหาชน เหมือนกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เป็นต้น จากนั้น บอร์ดการบินไทยชุดใหม่ ที่เกิดจากสัดส่วนการขายหุ้นของกระทรวงการคลัง จะไปจัดการกันเอง เพื่อตัดสินใจเข้าสู่แผนฟื้นฟู และเสนอแผนฟื้นฟู
“กระทรวงการคลังจะไปชักใยอะไรไม่ได้แล้ว แต่การเสนอตัวบุคคลที่จะมาเป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟู กระทรวงการคลังสามารถเสนอชื่อได้ เนื่องจากยังถือหุ้นใหญ่อยู่” นายวิษณุ กล่าว
ส่วนโครงสร้างของผู้จัดทำแผนจะต้องมีจำนวนเท่าใด 15 คน ตามที่กระทรวงคมนาคมเคยบอกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีใครตอบได้ว่าตัวเลข 15 คนนี้มาจากไหน อาจจะ 20 คน 30 คนหรือ 40 คนก็ได้ ซึ่งบอร์ดใหม่การบินไทยจะเป็นผู้เสนอรายชื่อผู้จัดทำแผนฟื้นฟูดังกล่าว
ต่อข้อถามว่า การขายหุ้นของกระทรวงการคลัง ต้องขอมติ ครม.หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ต้อง กระทรวงการคลังสามารถขายได้เลย ครม.อนุญาตแล้ว เนื่องจากให้พ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจโดยเด็ดขาด ซึ่งหมายความว่า ไม่เป็นเยื่อใยอะไรกันอีก ส่วนการเสนอรายชื่อผู้จัดทำแผนนั้น โดยนิตินัยไม่ต้องเสนอผ่านนายกรัฐมนตรี แต่โดยพฤตินัย กระทรวงการคลังก็ยังถือหุ้นใหญ่ในการบินไทย ต่อจากนี้ไป ครม.หรือนายกรัฐมนตรีจะมีอะไร ก็เป็นการสั่งกระทรวงการคลัง ไม่ใช่สั่งการบินไทยอีกต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า จะต้องใช้ระยะเวลาอีกนานหรือไม่ กว่าจะไปถึงขั้นตอนการได้บุคคลที่จะเข้ามาบริหารแผนฟื้นฟูการบินไทย นายวิษณุ กล่าวว่า ใช้เวลานานไม่ได้อยู่แล้ว ประมาณ 3 เดือน จะต้องได้ผู้บริหารแผนฟื้นฟู ซึ่งอาจจะเร็วกว่า 3 เดือนก็ได้ เมื่อเข้าสู่คดีล้มละลาย ก็เป็นเรื่องระหว่างศาลกับเจ้าหนี้ บางครั้งอาจเป็นลูกหนี้ด้วย เบื้องต้นลูกหนี้ต้องไปจัดทำแผน และนำมาให้เจ้าหนี้ดูว่ายอมรับหรือไม่ ถ้าเจ้าหนี้ไม่ยอมรับก็ล้ม แต่ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับก็ส่งให้ศาล ถ้าศาลยอมรับก็เดินหน้า แต่ถ้าศาลไม่ยอมรับก็ล้ม
“นายกรัฐมนตรีในฐานะถืออำนาจฝ่ายผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ กระทรวงการคลัง จะเอารายชื่อผู้จัดทำแผนตามที่บอร์ดการบินไทยใหม่เสนอหรือไม่ เป็นเรื่องที่บอกกระทรวงการคลังไปก็ต้องทำตาม แต่ขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้ด้วย” นายวิษณุ กล่าว .- สำนักข่าวไทย