ศธ.22 พ.ค.-เครือข่ายยุติความรุนแรงทางเพศในโรงเรียน 92 องค์กร ยื่น 6 ข้อ รมว.ศึกษาฯ แก้ปัญหาครูละเมิดทางเพศ อนาจารนักเรียน ซึ่งย้ำจะเอาผิดผู้กระทำผิดจนถึงที่สุด พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง
ดร.วราภรณ์ แช่มสนิท ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สมาคมเพศวิถีศึกษา พร้อมด้วย น.ส.อังคณา อินทสา ตัวแทนมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เครือข่ายยุติความรุนแรงทางเพศในโรงเรียน 92 องค์กร เข้ายื่นหนังสือถึงนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กรณีครู 5 คน และรุ่นพี่อีก 2 คน ละเมิดทางเพศนักเรียนหญิงอายุ 14 และ 16 ปีในจังหวัดมุกดาหาร รวมถึงกรณีครูแชทลวงนักเรียนมาทำอนาจารในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงฯ เร่งออกมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศในโรงเรียนอย่างเป็นระบบ
พร้อมกันนี้เครือข่ายฯ ได้นำรายชื่อประชาชนผู้สนับสนุนข้อเรียกร้องผ่านเว็บไซต์ change.org เกือบ 1 หมื่นคน มามอบให้กระทรวงฯ จากนั้นร่วมกันทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ชุด “หยุดซาตานในคราบครู” เพื่อสะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
น.ส.อังคณา กล่าวว่า เครือข่าย 92 องค์กร ประกอบด้วย องค์กรด้านการคุ้มครองเด็ก ผู้หญิงและการศึกษา ได้ออกมารณรงค์แก้ปัญหาความรุนแรงทางเพศในโรงเรียน โดยเรียกร้องผ่านเว็บไซต์ change.org ตอนนี้มีผู้ลงชื่อสนับสนุนเกือบ 1 หมื่นคน สืบเนื่องจากข่าวสะเทือนสังคม ที่จังหวัดมุกดาหาร และบุรีรัมย์ โดยมีบุคลากรครูเป็นผู้กระทำ ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่มีเด็กนักเรียนในความดูแลของกระทรวงศึกษาฯ ต้องตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศ ที่เกิดจากการกระทำของบุคลากรทางการศึกษาเอง อีกทั้งเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการแสดงทัศนะของผู้ที่อ้างตัวเป็นครูในลักษณะที่เข้าข้างผู้ต้องหาและกล่าวโทษเด็กนักเรียน สะท้อนถึงวัฒนธรรมความรุนแรงทางเพศที่ฝังรากลึกอยู่ในระบบการศึกษาไทย
จากข้อมูลศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ในรอบ4 ปี (พ.ศ.2556-2560) พบว่า มีเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศสูงถึง 727 ราย ในจำนวนนี้เป็นครูบุคลากรทางการศึกษา 53 ราย นอกจากนี้มูลนิธิฯยังได้เก็บข้อมูลปี 2560 จากข่าวหนังสือพิมพ์ พบว่า มีข่าวล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า10 ปี กว่า 42 ข่าว อายุ 11-20 ปี 145 ข่าว ในจำนวนนี้มี 17 ข่าว ที่ก่อเหตุในโรงเรียน ส่วนอาชีพครูที่เป็นผู้กระทำ มี 13 ข่าว
ด้าน ดร.วราภรณ์ กล่าวว่า เครือข่ายอยากเห็นสถานศึกษาเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชน จึงขอเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินมาตรการเร่งด่วน ดังนี้
1. เมื่อเกิดเหตุล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กนักเรียนเช่นที่เกิดในจังหวัดมุกดาหาร กระทรวงศึกษาฯ ต้องไม่ปล่อยให้เด็กผู้เสียหายและผู้ปกครองดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมอย่างโดดเดี่ยว แต่กระทรวงฯ ต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าทุกข์ร่วมในการแจ้งความและฟ้องร้องดำเนินคดีทางอาญา ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่เด็กผู้เสียหายและผู้ปกครอง และจัดการให้เด็กเข้าถึงการคุ้มครองสวัสดิภาพและได้รับการเยียวยาทางจิตใจและสังคมโดยเร่งด่วน
2. ในกรณีที่สอบสวนแล้วพบว่าครูหรือบุคลาการทางการศึกษาอื่นกระทำผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศต่อนักเรียน ให้กระทรวงศึกษาฯ ลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด ถอนใบประกอบวิชาชีพครู และหากบุคคลดังกล่าวยังคงรับราชการหรือปฏิบัติงานในหน่วยงานด้านการศึกษาต่อไป จะต้องไม่ให้ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนโดยตรงอย่างเด็ดขาด 3. รัฐมนตรีหรือผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาฯ ควรรีบลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหารเยี่ยมโรงเรียนที่เกิดเหตุ เพื่อให้กำลังใจและแสดงจุดยืนปกป้องนักเรียนผู้เสียหายและครอบครัว และสร้างขวัญกำลังใจให้นักเรียน ผู้ปกครอง และครูที่มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดครั้งนี้
นอกจากนี้ศธ.ต้องมีมาตรการป้องกัน คือ 4.เร่งออกนโยบายและมาตรการเชิงรุกที่ชัดเจนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศสำหรับโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ 5.จัดตั้งกลไกระดับกระทรวงเพื่อรับเรื่องร้องเรียนกรณีปัญหาความรุนแรงทางเพศในโรงเรียน โดยกลไกดังกล่าวต้องมีความเป็นอิสระ มีองค์กรภายนอกที่เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็กและการแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศเข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีการประชาสัมพันธ์ให้ครู ผู้บริหารโรงเรียนนักเรียน และผู้ปกครองรับทราบและเข้าถึงกลไกดังกล่าวได้อย่างกว้างขวาง
และ 6. ให้การศึกษาแก่ครูและผู้บริหารโรงเรียนทั่วประเทศเกี่ยวกับหลักการและแนวปฏิบัติเพื่อการคุ้มครองสิทธิเด็ก การเคารพความเสมอภาคระหว่างเพศ และมีแนวปฏิบัติเพื่อสร้างให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากความรุนแรงทางเพศ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังรับเรื่องร้องเรียนว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่ได้นิ่งนอนใจไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นในโรงเรียนไม่ว่าจะเป็นปัจจุบันหรือในอนาคต ความยุ่งยากของคดีอยู่ที่การกล่าวโทษบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งในพื้นที่ถือว่าเป็นบุคคลที่ได้รับความไว้วางใจ จากคนในพื้นที่ ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ตนพร้อมที่จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงและไม่อยากให้ตำรวจมีการปล่อยตัวไป อยากคัดค้านการประกันตัวด้วยซ้ำ เห็นด้วยในข้อเรียกร้อง โดยเฉพาะมาตรการป้องกันเชิงรุก โดยกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ (ศคพ.)พร้อมที่จะรับเรื่องร้องเรียนจากทุกที่
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุม ศบค.วันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ย้ำว่าส่วนของครูรุ่นใหม่ที่จะเข้าสู่วิชาชีพครู ขอฝากให้มีความตั้งใจและมีความพร้อมในการสอนในวิชาชีพ พร้อมจะส่งข้อความจากนายกรัฐมนตรีไปยังกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ด้วยเช่นกัน .-สำนักข่าวไทย