ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาอดีตนายกเทศมนตรี ต.ท่าหลวง

สนามบินน้ำ 21 พ.ค.-ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาอดีตนายกเทศมนตรีตำบลท่าหลวง ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่แต่ไม่ดำเนินคดีอาญากรณีสร้างสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่เป็นไปตามแบบ และเป็นเหตุให้สะพานพังถล่มมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ส่วน “วิศวกร-เอกชน” มีมูลความผิดทางอาญา ด้าน พ่อผู้เสียชีวิต ข้องใจ นายกเทศมนตรี ไม่ถูกดำเนินคดีอาญา ทั้งที่เป็นผู้รับผิดชอบ แต่ป.ป.ช.มองว่าไม่มีเจตนา


นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิดทางวินัยและตามอำนาจหน้าที่ต่อนายเชษฐา ปทุมรังสี อดีตนายกเทศมนตรีตำบลท่าหลวง กับพวก ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบกรณีก่อสร้างสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยไม่เป็นไปตามแบบ และเป็นเหตุให้สะพานพังถล่ม มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

นายนิวัติไชย กล่าวว่า โดยโครงการเป็นการประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง นายวรพจน์ นุชิต วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ และเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกผู้รับจ้าง แต่ได้ขอให้นายมนตรี เคหนาดี ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัทดีไนซ์ (2009) จำกัด ซึ่งมีฐานะเป็นน้องเขย เข้าร่วมประมูลงานจ้างโดยให้การช่วยเหลือด้านเอกสาร โดยผลสรุปบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ชนะการประมูลในราคา 8,290,000 บาทและได้ทำสัญญาจ้างโครงการฯ


นายนิวัติไชย กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ตามสัญญาจ้างกำหนดรูปแบบให้ใช้ลวดเหล็กตีเกลียวชนิดที่รับน้ำหนักได้ 25.9 ตัน แต่นายวรพจน์กลับนำเชือกลวดเหล็กกล้า ซึ่งสามารถรับแรงดึงได้สูงสุด 14 ตันมาใช้ในการติดตั้งเมนเคเบิ้ล ซึ่งการควบคุมงานดังกล่าวเป็นการก่อสร้างไม่เป็นไปตามรูปแบบรายละเอียดในกำหนดสัญญา และได้มีการส่งมอบงาน แต่นายวรพจน์กลับปลอมผลทดสอบแรงดึงชิ้นส่วนเหล็กมารับรองวัสดุก่อสร้าง โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จตามสัญญา ปรากฏผ่านไป 5 เดือนมีการซ่อมแซมถึง 4 ครั้ง จนท้ายที่สุดในวันที่ 28 เมษายน 2556 ก่อนที่จะซ่อมแซมอีกครั้ง แต่สะพานดังกล่าวได้พังถล่มเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

นายนิวัติไชย กล่าวว่า โดยการกระทำของนายวรพจน์ นุชิต ในฐานะวิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ ผู้รับผิดชอบโครงการ มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 และ 157 ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานผู้กลุ่มงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบกับมาตรา 86 รวมถึงมาตรา 123/1 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.ปี 2452 ซึ่งมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

นายนิวัติไชย กล่าวอีกว่า สำหรับนายมนตรี เคหบดี กรรมการผู้จัดการบริษัท ดีไนซ์ (2009) จำกัด มีมูลความผิดทางอาญาฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด และฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานซึ่งเป็นผู้ควบคุมงาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 และ 157 ประกอบกับมาตรา 86 รวมถึงมาตรา 123/1 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป.ป.ช.ปี 2452 ส่วนนายอนุวัฒน์ วิชัยโย และนายสันติธรรม สันวนสกุลณี ในฐานะผู้ควบคุมงาน มีฐานความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ 162 รวมถึงมาตรา 123/1 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.ปี 2452 ซึ่งมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง


นายนิวัติไชย กล่าวด้วยว่า ขณะที่นายเชษฐา ในฐานะนายกเทศมนตรีที่ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกและอนุมัติเบิกจ่าย ซึ่งเป็นการดำเนินการของคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยได้แจ้งดำเนินการให้ผู้รับจ้างเข้าซ่อมแซม 4 ครั้งและได้ตรวจสอบสะพานเป็นระยะ จึงไม่อาจฟังได้ว่ามีเจตนาให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดจึงไม่มีมูลความผิดทางอาญา แต่มีมูลกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนละเลยไม่ปฏิบัติตามโดยชอบตามอำนาจหน้าที่ กรณีไม่สั่งปิดสะพานดังกล่าว ปล่อยให้มีการใช้สะพานสัญจรไปมา จึงมีความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่งหรือแก่เทศบาลหรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาลปี 2496 มาตรา 73 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว นายอนุนาท เสือสมิง บิดาของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สะพานถล่ม ได้เข้ามาทวงถามต่อ ป.ป.ช.ถึงความคืบหน้า ในการเอาผิดกับเจ้าพนักงานที่เป็นข้าราชการในฐานะกรรมการตรวจรับงาน ตามมาตรา 157 ด้วยกังวลว่าคดีดังกล่าวจะหมดอายุความ ก่อนที่จะเอาผิด รวมถึงการติดตามตัวนายวรพจน์ ผู้กระทำความผิดในคดีดังกล่าวที่หลบหนี และยังติดตามตัวไม่ได้ โดย ป.ป.ช.ยืนยันเร่งดำเนินตามกระบวนการของกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ผู้อพยพใน จ.สุรินทร์ รอคำสั่งกลับบ้าน

สุรินทร์ 7 ส.ค. – ผู้อพยพใน จ.สุรินทร์ พร้อมกลับบ้าน หากได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัด หลังทราบผลประชุม GBC ขณะที่วันนี้ “เสก โลโซ” มาเซอร์ไพรส์ ขับร้องเพลงคลายเครียดให้ผู้อพยพ.-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]

ไร้คู่แข่ง “ไชยา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

รัฐสภา 7ส.ค. – “ไชยา พรหมา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ประกาศพร้อมจับมือทุกฝ่ายทำให้สภาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว จากนั้นนายไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขอยืนยันว่าจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อยสถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้เป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป และสิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน […]

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]