กรุงเทพฯ 20 พ.ค..-“ดร.ประสาร” เสนอฉีดภูมิคุ้มกันเสมอภาค ผลักดัน “อสม.การศึกษา” รุกค้นหา ผู้ด้อยโอกาสไม่เสมอภาค ชู การคุ้มครองทางสังคมในระบบการศึกษา 5 มิติ
ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ในฐานะกรรมการที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมในศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) เสนอว่า ด้วยประสบการณ์การทำงาน 2 ปี และข้อมูลเชิงลึกจากระบบ iSEE ของ กสศ. เราจึงมีข้อเสนอในการสร้าง “ระบบการคุ้มครองทางสังคมในระบบการศึกษา” (social protection in education system) ใน 5 มิติดังนี้
1) ความมั่นคงทางอาหาร (food security) ให้แก่เด็กเยาวชนทุกคนในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเสมอภาค ปัจจุบันเราสนับสนุนอาหารกลางวันเพียง 200 วันต่อปีให้แก่เด็กอนุบาลถึง ป.6 เท่านั้น ยังมีเด็ก ม.ต้นถึง ม.ปลายอีกหลายล้านคนที่ยังไม่มีอาหารกลางวันทาน และยังมีอีก165 วัน ที่เด็กเยาวชนด้อยโอกาสหลายล้านคนยังไม่มีความมั่นคงทางอาหารในชีวิตและครอบครัว
2)ความมั่นคงของสถาบันครอบครัว (family security) ปัจจุบันครอบครัวที่มีรายได้น้อยมากกว่าร้อยละ 40 เป็นครอบครัวแหว่งกลาง พ่อแม่แยกทางกัน ทำให้เด็กเยาวชนราว 1 ล้านคนกำลังเติบโตขึ้นมาโดยขาดความมั่นคงในสถาบันครอบครัว
3) ความพร้อมและความปลอดภัยในการเดินทางไปโรงเรียนของนักเรียน (travel security) ปัจจุบันเด็กเยาวชนเกือบ 2 ล้านคนไม่มีค่าใช้จ่ายและพาหนะที่ปลอดภัยในการเดินทางไปโรงเรียน ทำให้หลุดออกจากระบบการศึกษา และประสบอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางไปโรงเรียน ดังที่เห็นเป็นข่าวอยู่เป็นระยะๆ
4) ความพร้อมและความปลอดภัยของสถานศึกษาและครู (school security) ในการจัดการศึกษาทั้งในเชิงกายภาพ และความพร้อมของผู้บริหารและครูในการจัดการศึกษาตามมาตรฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการจัดการศึกษาแก่ผู้พิการด้อยโอกาส การป้องกันความรุนแรงในโรงเรียน รวมทั้งการจัดการศึกษาภายใต้สถานการณ์อย่าง COVID-19
5) ความพร้อมของชุมชนท้องถิ่น (community security) บทเรียนสำคัญจาก COVID-19 ทำให้พวกเรายิ่งเห็นความสำคัญภูมิปัญญาของชาวแอฟริกาที่ว่า It takes a village to raise a child “การสร้างเด็กคนหนึ่งต้องอาศัย คนทั้งหมู่บ้าน ความเข้มแข็งและความร่วมมือร่วมใจของชุมชนท้องถิ่น ถือเป็นหัวใจสำคัญในการสนับสนุนสถาบันครอบครัวและสถานศึกษา ในการส่งเสริมความมั่นคงทางสังคมในระบบการศึกษาทุกด้าน
“เราพบจุดแข็งอย่างหนึ่งในระบบของบ้านเรา คือ อสม.สาธารณสุข ทำให้ฉุกคิดว่า จะเป็นอย่างไรบ้างถ้าจะสร้าง อสม.การศึกษา คือการสร้างเด็กคนหนึ่ง ไม่ใช่แค่ไปห้องเรียน ออนแอร์ ออนไลน์ เด็กอายุ 15 ปีพบตั้งครรภ์ก่อนกำหนดเยอะ ทำไมไม่ไปเรียนอาชีวะเพื่อได้อาชีพ เหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือจากชุมชนในหลากรูปแบบ เป็นไปได้ไหมที่จะสร้าง อสม.การศึกษา เหมือน อสม.สาธารณสุข ที่เข็มแข็งมากในสถานการณ์โควิด ไปช่วยคัดคนเดินทางกลับจากเกาหลี กักตัวจากโรค ซึ่งเราสามารถนำรูปแบบนี้ มาสร้างระบบเครือข่ายอสม.การศึกษาขึ้นมา ตัวอย่างเช่น ตู้ปันสุข เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน “ ดร.ประสาร กล่าว
ดร.ประสาร ยังกล่าวว่า ระบบการคุ้มครองทางสังคมในระบบการศึกษาทั้ง 5 มิตินี้ หากเกิดขึ้นได้จริง ย่อมจะเป็นเสาหลักที่สำคัญของระบบการศึกษาในการส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษา และคุณภาพการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมายทั้งในและนอกระบบการศึกษา ทั้งวัยเรียนและวัยแรงงาน กสศ. จะทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งที่มีผู้แทนอยู่ในบอร์ดของเราและหน่วยงานภายนอกอื่นๆ เพื่อสนับสนุนให้เกิดระบบการคุ้มครองทางสังคมในระบบการศึกษาทั้ง 5 ด้านในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อประชาชนกลุ่มเป้าหมายหลาย 10 ล้านคนและครัวเรือนเหล่านี้ได้รับความคุ้มครองทางสังคมแล้ว ความจำเป็นในการพึ่งพามาตรการกู้วิกฤติในภาวะฉุกเฉินอย่างที่ผ่านมาก็จะลดลง ระยะเวลาที่ใช้ในการกลับสู่ภาวะปกติก็จะลดลง เพราะสังคมไทยจะมี “ภูมิคุ้มกัน” เพื่อสู้วิกฤตทั้งในรอบนี้และรอบหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบไป.-สำนักข่าวไทย
![](https://imgs.mcot.net/images//2020/05/1589969592517.jpg)