“มาดามเดียร์” ปัดคุยตั้งพรรคใหม่

กรุงเทพฯ 20 พ.ค.-“วทันยา วงษ์โอภาสี” ปัดคุยการเมือง-ตั้งพรรคใหม่ มุ่งมั่นทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ย้ำไม่ใช่เวลาพูดเรื่องการเมือง ควรร่วมมือกันช่วยเหลือประชาชนและประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19


น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธกระแสข่าวการหารือร่วมกับนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเลขาธิการพรรค และนายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่โรงแรมหรรษา ถ.ราชดำริ เพื่อเตรียมตั้งพรรคใหม่ ชื่อ พรรคสร้างไทย โดยระบุว่า ส่วนตัวแทบจะไม่มีโอกาสเดินทางไปที่โรงแรมหรรษา และในการพูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคแต่ละครั้ง ไม่เคยมีประเด็นเกี่ยวกับการตั้งพรรคใหม่ ทั้งนี้หากมีการชักชวนให้ไปตั้งพรรคใหม่นั้น ส่วนตัวมองว่าในสถานการณ์ขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์การเมือง หรือสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ได้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมที่จะมีกระบวนการทางความคิดเหล่านี้ โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมา แม้จะเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ก็ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน โดยเฉพาะในเขตชุมชนแออัดใน กทม.อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งสิ่งที่เราเห็น คือ ความเดือดร้อนของประชาชน ดังนั้นความสนใจของเรา จึงมุ่งโฟกัสไปที่การแก้ปัญหาให้กับประชาชนมากกว่าจะไปให้ความสำคัญกับประเด็นในทำนองเดียวกับกระแสข่าวที่ออกมา

สำหรับข่าวที่ปรากฏออกมานั้น น.ส.วทันยา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะทราบดีว่าในช่วงที่ผ่านมา เรื่องข่าวของพรรคพลังประชารัฐจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุย เพราะในแง่ของการเมือง คนให้ความสนใจ แต่สิ่งสำคัญ ณ จุดนี้ ถ้าคนที่เป็นสมาชิกพรรค เป็น ส.ส. โดยเฉพาะคนที่ทำงานในฝ่ายบริหาร เช่น รัฐบาลจะรู้ว่าวันนี้เรามุ่งในการทำงาน เพราะปัญหาที่รุมเร้าในปัจจุบันมากพออยู่แล้ว โดยเฉพาะวันนี้ประเทศกำลังเข้าสู่ความท้าทาย ในเรื่องการฟื้นฟูวิกฤติจากโควิด-19 เพราะฉะนั้นเราจึงตั้งใจทำงานตามหน้าที่ของตัวเองมากกว่าที่จะนั่งคิดถึงเรื่องในทำนองนี้ และที่ผ่านมา ตนมาจากการเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักการเมือง จึงทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้คิดเรื่องซับซ้อน มุ่งเน้นผลงานมาโดยตลอด จึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย


“การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ การทุ่มเทเวลาของเพื่อน ส.ส.ทุกคน เพื่อรับรู้รับฟังปัญหาของพ่อแม่พี่น้องประชาชนในทุกหย่อมหญ้า เพื่อให้การใช้เงินจาก พ.ร.ก. 3 ฉบับ การกู้เงินครั้งสำคัญจำนวน 1ล้านล้านบาท ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ อย่างได้ผลและตรงกับเป้าหมายมากที่สุด เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม ในเวลานี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์ ความท้าทายของปัญหาเศรษฐกิจและสภาพสังคมได้เปลี่ยนแปลงทุกชีวิตอย่างกะทันหัน  เป็นสิ่งที่เดียร์ได้รับรู้รับทราบจากการลงพื้นที่ ไปสัมผัสชีวิตของประชาชน ชีวิตวิถีใหม่ เกิดขึ้นทุกวัน กับทุกชีวิตเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผเชิญ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ทุกชีวิตมีผลกระทบทั้งสิ้น การทำงานทางการเมืองก็เช่นกัน จะจมหรือวกวนอยู่กับปัญหาเดิม ๆ คงไม่เหมาะกับปัญหาของโลกในช่วงเวลานี้ สิ่งเหล่านี้จะต้องบรรเทาเบาบางได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าจะให้เลือก ขอเลือกเดินหน้าทำงาน แล้วให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด” น.ส.วทันยา กล่าว

น.ส.วทันยา กล่าวถึงกรณีปรากฏชื่อของนายวัฒน์ชัย ร่วมพูดคุยในครั้งนี้ด้วยว่า ไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีการพูดคุยกับนายวัฒน์ชัยเป็นการส่วนตัว รู้จักชื่อเสียงในแง่ของนักธุรกิจตามสื่อต่าง ๆ เพียงเท่านั้น

เมื่อถามว่า หากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ชวนไปอยู่ด้วยจะไปหรือไม่นั้น น.ส.วทันยา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่านายสมคิด จะตั้งพรรคจริงหรือไม่ และโดยห้วงสถานการณ์ในเวลานี้ ยังไม่มีเหตุผลที่จะไปพูดถึงตรงนั้น วันนี้พรรคพลังประชารัฐยังมีความเข้มแข็ง มีบุคลากรที่มีความสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถือเป็นภารกิจหลัก และตนก็ยังเชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับบ้านพร้อมหน้า

อุบลราชธานี 8 ส.ค. – ฝนชะล้างความเศร้า ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับเข้าบ้านเรือนเกือบหมดแล้ว ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งในรอบกว่า 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่เกิดเหตุไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]