กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – “พ.อ.เศรษฐพงค์” มั่นใจ นายกรัฐมนตรี นั่งประธานขับเคลื่อน 5 จี ช่วยสร้างทิศทางใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ ชี้ ส่งผลดีต่อนโยบายรัฐ ทั้งการศึกษา-สาธารณสุข-เศรษฐกิจ-ภาคการผลิต
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามและตรวจสอบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน 5 จีแห่งชาติ ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากประเทศไทยเราได้ผ่านการประมูลคลื่น 5 จี ไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดังนั้นการมีคณะกรรมการฯ ชุดนี้ขึ้นมา จะได้กำหนดทิศทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5 จี ในการต่อยอดใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี 5 จี เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพหลังจากที่ผู้ประกอบการได้ลงทุนขยายโครงข่ายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ นอกจากนี้คณะกรรมการฯ ยังจะมีส่วนช่วยในการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า ให้นำคลื่นความถี่นั้นมาพัฒนาเพื่อใช้งานเป็นระบบ 5 จี ซึ่งจะเกิดประโยชน์และความคุ้มค่าสูงสุด
“สถานการณ์หลังวิกฤติโควิด เทคโนโลยีดิจิทัลจะเข้าไปมีส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก เนื่องจากโควิด ได้สร้างแนวทางการใช้ชีวิตใหม่ ๆ ขึ้น ที่คนสามารถอยู่บ้าน ทำงาน สั่งอาหาร สร้างความสุขให้ตัวเองโดยไม่ต้องออกไปไหน โดยมีอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลางเชื่อมสิ่งต่าง ๆ ดังนั้นหากเรามี 5 จี ที่มีคุณภาพที่สมบูรณ์ จะส่งผลดีต่ออนาคตของประเทศอย่างยิ่ง” พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5 จี มีมากมาย โดยเฉพาะการสนับสนุนนโยบายด้านต่าง ๆ ของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาออนไลน์ การรักษาทางการแพทย์ทางไกลผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือ Telemedicine รวมทั้งเป็นการสนับสนุนและเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะภาคการผลิต โดยระบบ 5G จะทำให้การสื่อสารเป็นไปในแบบเรียลไทม์ ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นระบบ Automation หรือ Robotic จะสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ลดความผิดพลาดทำให้ได้ผลผลิตมากขึ้นในเวลาที่ลดน้อยลง ที่สำคัญการที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มานั่งเป็นประธานฯ นั้น เชื่อว่าการขับเคลื่อน 5 จี จะเป็นไปด้วยดี เพราะแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเทคโนโลยี 5 จี .-สำนักข่าวไทย