กรุงเทพฯ 19 พ.ค.-วัคซีนป้องกันโควิด-19 ฝีมือคนไทย ประสบความสำเร็จในระดับดีหลังทดสอบในหนู เตรียมทดสอบในลิงในสัปดาห์หน้า หากผลออกมาดี คาดพร้อมใช้งานกลางปีหน้า
วันนี้พอจะมีข่าวดีเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยฝีมือคนไทย หลังจากที่มีข่าวออกมาจาก นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่าสำหรับการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด–19 ล่าสุดงานวิจัยวัคซีนชนิด mRNA ที่ศูนย์วัคซีนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่กระทรวง อว.มอบให้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติรับผิดชอบ ประสบความสำเร็จในระดับดีหลังทดสอบในหนู โดยเตรียมทดสอบในลิงในสัปดาห์หน้า พร้อมกับคาดว่าหากผลออกมาดี น่าจะมีข่าวดีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด mRNA จะมีใช้ปีหน้านั้น
ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้ไปยัง นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผอ.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขออธิบายก่อนว่าวัคซีนชนิด mRNA เป็นเทคโนโลยีใหม่ของโลกใบนี้ ที่จะใช้รหัสพันุกรรมของเชื้อโควิด-19มาสกัด และสร้างเป็นวัคซีน โดยวัคซีนตัวนี้หากประสบความสำเร็จในการทดลองจะสามารถผลิตออกมาได้จำนวนมาก เพียงพอกับคนไทยแน่นอน เรื่องนี้นักวิจัยของไทยเดินหน้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการระบาดในช่วงแรก โดยจะไล่เรียงไทม์ไลน์ให้เห็นภาพกันชัดๆว่าหากผลการทดสอบเป็นได้ตามที่คาดคิดไว้วัคซีนตัวนี้จะได้นำออกมาใช้เมื่อใด
นักวิจัยไทยเริ่มมาตั้งแต่การทดลองในห้องปฏิบัติการครั้งแรก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 63 และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จากนั้น เดินหน้าทดสอบวัคซีนในหนู เมื่อเดือนเมษายน 63 โดยทดสอบในไทยก่อนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่ด้วยที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ จึงจำเป็นต้องนำไปทดลองในห้องปฏิบัติการระดับโลกซ้ำอีกครั้งว่าผลที่ได้จะสอดคล้องกับที่ทดสอบในไทยหรือไม่ โดยผลการทดสอบวัคซีนในหนู ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าให้ผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า Neutralizing antibody ในระดับที่สูงถึง 1: 3000 ถือว่าเป็นผลในระดับเดียวกับที่ทดสอบที่ไทย ผลคือเป็นที่น่าพอใจมาก
หลังจากนี้จะเดินหน้าสู่ขั้นตอนเตรียมการทดสอบในลิง โดยจะกลับมาทำการทดลองที่ประเทศไทย ในเดือนพฤษภาคมนี้ ในชั้นนี้จะผลิตวัคซีนออกมาทดลองทั้งในคน และลิง รวมประมาณ 10,000 โดส โดยในลิง จะทำการทดลองในสัปดาห์หน้า ใช้ลิงหลายสิบตัวในการทดลอง ในขั้นตอนนี้จะต้องทดลองซ้ำอย่างน้อย 2-3 ครั้ง หรืออาจจะมากกว่านั้น เพื่อดูผลว่าในลิงสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีขนาดไหน ขั้นตอนในลิงจะกินเวลา 3-6 เดือน
จากนั้นหากผลออกมาดี จะเข้าสู่ขั้นตอนทดสอบในคน เร็วสุดจะเริ่มได้ ประมาณกันยายน หรือตุลาคม 63 ในคนจะแบ่งการทดสอบในรูปแบบลักษณะเดียวกับที่สหรัฐอเมริกา คือแบ่งเป็น 3 เฟส เฟสแรกจะใช้คนทดลองหลักสิบ คือตั้งแต่ 1-100 คน หากผลออกมาเป็นที่น่าพอใจจะเริ่มเฟส 2 หลักร้อย ตั้งแต่ 400-600 คน และเฟสสุดท้าย ใช้หลักพันคน
รวมระยะเวลาในการทดลองวัคซีนชนิด mRNA นี้จะใช้เวลาประมาณ 12-18 เดือน หรือพูดง่ายๆหากผลออกมาเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เร็วสุด เราจะได้เห้นหน้าตาวัคซีนโควิด-19 โดยฝีมือคนไทยในกลางปี 64 แน่นอน
ขณะที่นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวถึงขั้นตอนการผลิตวัคซีนว่า ขณะนี้ได้มีการประสานเตรียมการผลิตวัคซีนชุดแรกกับโรงงานผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา และแคนาดา เพื่อนำมาใช้ทดสอบในคนตามขั้นตอนมาตรฐานสากล รวมทั้งได้ประสานกับบริษัท Bionet Asia ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนของไทย เตรียมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากโรงงานผลิตวัคซีนต้นแบบ ซึ่งเชื่อว่าจะสำเร็จจนถึงขั้นสุดท้าย คือ ไทยสามารถผลิตวัคซีนด้วยเทคโนโลยี mRNA นำมาใช้ช่วยคนไทยในการป้องกันโควิด–1 หากสำเร็จ ไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่มีวัคซีนใช้อย่างเพียงพอสำหรับคนไทย
ขณะที่ปัจจุบัน มีวัคซีนต้นแบบที่เข้าทดสอบในสัตว์ทดลองมากกว่า 150 ชนิด และอย่างน้อยมี 10 ชนิด ที่เริ่มทำการทดสอบในอาสาสมัครแล้วอย่างน้อย 5 ประเทศ คือ จีน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี และแคนาดา.-สำนักข่าวไทย