อีอีซีพัฒนาบุคลากรตามแบบ Demand Driven

กรุงเทพฯ  19 พ.ค. – ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาบุคลากรตามแนวทางอีอีซีโมเดล ปรับหลักสูตรการเรียนการสอน ตามแนวทาง EEC Model Type A  ตั้งเป้าผลิต 100,000 คน ภายใน 5 ปี


นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาบุคลากรตามแนวทางอีอีซีโมเดล ครั้งที่ 1/2563 โดยที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการพัฒนาบุคลากรกับผู้ประกอบการตามแนวทางอีอีซีโมเดลและการขยายความร่วมมือกับหน่วยงานในการพัฒนาบุคลากร โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ ๆ ดังนี้ 

นายสุวิทย์ กล่าวว่า การพัฒนาบุคลากรแบบ Demand Driven เป็นแนวทางหลักพัฒนาบุคลากรในอีอีซี  โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากรใน อีอีซี ใช้ EEC Model Type A และ EEC Model Type B เป็นแนวทางหลักในการพัฒนาบุคลากรใน อีอีซี และให้ EEC-HDC เป็นผู้ประสานงานและรายงานให้ กพอ. ทราบในการประชุมครั้งต่อไป พร้อมให้สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม (สป.อว.) ปรับการเรียนหลักสูตรการเรียนการสอนในหลักสูตรที่ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (Degree) เป็นแบบ EEC Model Type A ให้มากที่สุด โดยให้ EEC-HDC ประสานงานโครงการ CWIE และหาแนวทางและเป้าหมายเสนอในการประชุมครั้งต่อไป และหน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งรัดการจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้น (Short Course) ที่ได้รับงบประมาณปีงบประมาณ 2563 และ 2564 โดยเร่งรัดการจัดทำหลักสูตรและประสานพลังเอกชนเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย 30,000 คน โดยให้ EEC-HDC เป็นผู้ประสานงานหลัก  


ส่วนขยายกรอบความร่วมมือเพิ่มการพัฒนาบุคลากรในอีอีซี ระหว่างหน่วยงานที่สำคัญ คือ 1.ความร่วมมือระหว่าง สกพอ. กับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผลักดันให้สถาบันอาชีวศึกษาในภาคตะวันออก จำนวน 12 สถาบันอาชีวศึกษา ซึ่งมีกำลังการผลิตนักศึกษาระดับ ประกาศนียบัตรชั้นสูง (ปวส.) รวมปีละ 8,200 คน เป็นรูปแบบ EEC Model Type A ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ของผู้สำเร็จการศึกษา ปวส. ในปี 2566 (ดำเนินการแล้วประมาณ 1,500 คน ต้องการเพิ่ม 7,000 คน) ขยายจำนวนนักศึกษาที่เข้าอบรมหลักสูตรระยะสั้น (short course) รัฐเอกชนร่วมจ่าย 50:50 ให้ได้ 20,000 คน ในปีงบประมาณ 2564  ให้ขยายผล การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการภาษากับเนื้อหา (Content and Language Integrated Learning – CLIL) กับการเรียนการสอนกลุ่มอาชีวศึกษา ซึ่งผู้สอนในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ นำภาษาอังกฤษไปสอดแทรกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้นักศึกษาสามารถใช้ภาษาอังกฤษเฉพาะทางได้  เน้นให้ผู้เรียนรู้จักและใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่พบในวิชาชีพ และสามารถใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว 

2. ความร่วมมือระหว่าง สกพอ.กับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน ให้หน่วยฝึกอบรมของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานใน อีอีซี เช่น สถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (Manufacturing Automation and Robotics Academy : MARA) ทำงานร่วมกับภาคเอกชนให้มากขึ้น ทั้งการฝึกอบรม Res kill Up skill New skill ในหลักสูตรอบรมระยะสั้น (short course)  กรมพัฒนาฝีมือแรงงานสร้างหลักสูตรอบรมระยะสั้น (short course) รัฐเอกชน ร่วมจ่าย 50:50 และเป็นแกนนำประสานภาคอุตสาหกรรมเชื่อมต่อการศึกษา และฝึกอบรมเพิ่มทักษะแรงงาน โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19  

3. ความร่วมมือระหว่าง สกพอ.กับ สป.อว. เพื่อส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรของสถาบันอุดมศึกษาตามแนวทาง Demand Driven โดยบูรณาการ การจัดการศึกษาในรูปแบบ EEC Model และ ความร่วมมือในการส่งเสริมการจัดสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงานให้สามารถพัฒนากำลังคนได้ตรงความต้องการของผู้ใช้บัณฑิตมากที่สุดทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ กำหนดแนวทางเพื่อสนับสนุนสถานศึกษาที่จัดการศึกษาตามแนวทางดังกล่าว และให้สิทธิประโยชน์แก่เอกชนที่ร่วมผลิตบัณฑิตเพื่อเป็นการจูงใจเป็นพิเศษ และขอให้ สป.อว. เร่งขยายจำนวนหลักสูตร CWIE ตามแนวทาง EEC Model Type A เพื่อรองรับความต้องการบุคลากรของ อีอีซี ให้ได้ 100,000 คน ภายในระยะเวลา 5 ปี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว