กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – บีโอไอผนึก 2 ธนาคารรัฐจัดสัมมนาออนไลน์ “ทางออก SMEs ไทย ฝ่าวิกฤติโควิด-19”
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอให้ความสำคัญและส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และแต่ละปีกิจการกว่าร้อยละ 60 ของโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในเป็นธุรกิจ SMEs เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ทั้งในส่วนของบีโอไอและสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง บีโอไอจึงได้จัดเสวนาออนไลน์ (Webinar) เรื่อง “ทางออก SMEs ไทย ภายใต้วิกฤตโควิด-19” วันที่ 28 พฤษภาคมนี้ เวลา 13.30 – 15.00 น. โดยจะมีการบรรยายเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งในส่วนของบีโอไอ และการสนับสนุนด้านสินเชื่อของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย คาดว่าจะมีผู้ร่วมการสัมมนา 200 คน ซึ่งสามารถลงทะเบียนผ่านลิงก์เสวนาออนไลน์ได้ที่ https://www.eventpassinsight.co/mobile/registration/create/tbiw1
ทั้งนี้ ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEs ไทย บีโอไอได้มีมาตรการให้สิทธิประโยชน์และผ่อนปรนเงื่อนไขเป็นพิเศษต่างจากกิจการทั่วไป ตั้งแต่วงเงินลงทุนขั้นต่ำสำหรับโครงการที่จะมาขอรับการส่งเสริมการลงทุน เพียง 500,000 บาท ซึ่งไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน การเพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 2 เท่าจากเกณฑ์ปกติทั่วไป สำหรับกลุ่มกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 – 8 ปี (กลุ่ม A) รวมทั้งอนุญาตให้นำเครื่องจักรใช้แล้วในประเทศมาใช้ในโครงการได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับกิจการบางประเภท เพื่อเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอี สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของบีโอไอได้ง่ายขึ้น รวมทั้งให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม กรณีมีที่ตั้งในเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน 10 จังหวัด สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าข่ายเป็นเอสเอ็มอี ตามมาตรการนี้ ต้องมีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อปี และต้องยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายในปี 2564.-สำนักข่าวไทย