นนทบุรี 19 พ.ค. – พาณิชย์ยื่นจดโดเมนเนม TraceThai.com เป็นชื่อระบบบล็อกเชนสินค้าเกษตรและอาหารไทยเรียบร้อยแล้ว นำร่องข้าวอินทรีย์
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค.ได้มอบหมายให้ผู้แทนยื่นขอจดโดเมนเนม TraceThai.com เพื่อจะเป็นชื่อสำหรับระบบบล็อกเชน (Blockchain) ให้กับสินค้าเกษตรและอาหารของไทยที่ สนค.กำลังดำเนินการอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งระบบนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการช่วยให้เกษตรกรและผู้ส่งออกสินค้าเกษตรของไทยสามารถขายและส่งออกได้ในระยะเวลาที่สั้นลง อีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าและสร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้าในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม สนค.ได้เลือกข้าวอินทรีย์เป็นสินค้านำร่อง เพราะเป็นสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูง มีศักยภาพในการส่งออก มีขั้นตอนการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานที่ชัดเจน การนำบล็อกเชนมาใช้จะทำให้สามารถตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานสินค้าได้อย่างเป็นระบบ ช่วยยกระดับและเพิ่มมูลค่า สร้างความเชื่อมั่นและตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อและตลาดผู้นำเข้า ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ได้ว่าเป็นข้าวอินทรีย์จริงตามที่ได้รับรองมาตรฐาน
ทั้งนี้ ระบบบล็อกเชน TraceThai.com จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับเกษตรกร สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ผลิตและค้าขายส่งออกสินค้าข้าวอินทรีย์ โดยผู้ที่เข้ามาใช้ต้องได้รับใบรับรองจากหน่วยงานที่เป็นผู้ดูแลมาตรฐานอินทรีย์เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ใช่ระบบที่ไปออกใบรับรองให้พื้นที่ของเกษตรกร แต่หากมีใบรับรอง ระบบจะช่วยส่งต่อและกระจายข้อมูลให้กับผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในระบบให้ดำเนินการพิจารณาอนุญาตไปได้หลายแห่งพร้อมกันจนถึงผู้นำเข้า ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาดำเนินการต่าง ๆ ได้อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ระบบดังกล่าวไม่ได้ออกแบบให้ใช้เฉพาะกับข้าวอินทรีย์เท่านั้น แต่ในอนาคตสามารถนำไปใช้กับสินค้าเกษตรและอาหารอื่น ๆ ได้ หรือแม้แต่สินค้าอะไรก็ได้ที่ต้องมีการตรวจสอบย้อนกลับ ถือเป็นระบบตรวจสอบย้อนกลับแรกของไทยสำหรับสินค้าเกษตรและอาหารที่รัฐบาลช่วยตั้งขึ้น ส่วนที่เลือกทำข้าวอินทรีย์ก่อน เพื่อดูความยากง่ายและจุดที่อาจเป็นปัญหาในการนำข้อมูลเข้าระบบบล็อกเชน และข้าวอินทรีย์เป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ซึ่งขณะนี้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ปรึกษาโครงการได้ดำเนินการระยะแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งด้านการศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และออกแบบระบบต้นแบบบล็อกเชน การตรวจสอบย้อนกลับข้าวอินทรีย์ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน โรงสี สหกรณ์ ผู้ประกอบการทั้งผู้ค้าในประเทศ และผู้ส่งออกข้าวอินทรีย์ รวมถึงหน่วยงานผู้ตรวจรับรองมาตรฐาน และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กรมการข้าว กรมวิชาการเกษตร และกรมศุลกากรได้เป็นอย่างดี.-สำนักข่าวไทย