“บรรยง พงษ์พานิช” ชี้ฟื้นฟูการบินไทย ต้องแก้ให้ตรงจุด ตอน 1

กทม. 15 พ.ค. – “บรรยง พงษ์พานิช” อดีตบอร์ดการบินไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าวไทย ถึงวิกฤติการบินไทย ชี้การบินไทยยังมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เห็นด้วยที่จะให้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูตามกฎหมายล้มละลาย แต่ต้องแก้ให้ตรงจุด ตามแผนฟื้นฟูสามารถบริหารงานแบบเอกชนช่วยอุดช่องโหว่ปัญหาการบริหารแบบรัฐวิสาหกิจที่เปิดช่องให้แทรกแซงได้ทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤติครั้งนี้ 


นายบรรยง พงษ์พานิช นักการเงิน และอดีตกรรมการ บมจ.การบินไทย บอกว่า ปีที่ผ่านมาสายการบินชั้นนำทั่วโลกล้วนทำกำไร ยกเว้นการบินไทยที่ขาดทุนไปกว่า 12,000 ล้านบาท สิ้นปีที่แล้วหนี้สินมากกว่าทุน 25 เท่า ขณะที่ปีนี้มีสถานการณ์โควิด ทำให้ 3 เดือนแรกของปี สายการบินทั่วโลกขาดทุน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการบินไทยที่เชื่อว่าทุนติดลบไปแล้ว


 

แม้กิจการมีปัญหา แต่การบินไทยยังมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ แต่ต้องประเมินว่าคุ้มค่ากับเงินที่จะอุดหนุนหรือไม่ นั่นต้องขึ้นอยู่กับการจัดทำแผนฟื้นฟู ซึ่งเป็นกระบวนการสากลที่หลายสายการบินทั่วโลกเคยผ่านมาแล้ว หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เจแปนแอร์ไลน์ เคยมีหนี้สินมหาศาลสูงกว่า 1.5 ล้านล้านเยน จากสินทรัพย์ทั้งหมด 1.7 ล้านล้านเยน จนต้องประกาศขอความคุ้มครอง และยื่นขอล้มละลาย เมื่อรัฐบาลอีดฉีดเงินกว่า 350,000 ล้าน เพื่อฟื้นฟูสายการบินแห่งชาติ และเลือกคนที่เข้ามาเป็นผู้นำในการพลิกฟื้นธุรกิจให้สามารถกลับมาเข้าตลาดหลักทรัพย์อีกครั้งในเวลา 2 ปีเศษ และกลายเป็นสายการบินที่มีผลประกอบการที่ยอดกเยี่ยมในปัจจุบัน 


แม้มีตัวอย่างให้เห็น แต่การพลิกฟื้นการบินไทยต้องแก้ให้ตรงจุด หากรัฐบาลจะอุดหนุนเงิน 50,000 ล้าน ค้ำประกันหนี้ ย่อมไม่พอแน่นอน เนื่องจากเจ้าหนี้ทั้งหลายต่างต้องการเงินคืน แต่การยื่นฟื้นฟูกิจการจะถูกบังคับให้โปร่งใสภายใต้กฎหมายล้มละลาย เมื่อศาลรับคำร้องจะเกิดการพักชำระหนี้ทันที และขั้นตอนการพิจารณาแผนฟื้นฟูฯ ต้องมีการเสนอชื่อคณะผู้บริหารแผนด้วย ซึ่งทั้งเจ้าหนี้และศาลต้องเห็นชอบจึงจะดำเนินการตามแผนได้ และกลายเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะแก้ปัญหา ทั้งการบริหารงานแบบรัฐวิสาหกิจที่เปิดช่องให้เกิดการแทรกแซงได้ทุกขั้นตอน ทั้งระบบการทำงานภายใต้สังกัดที่เป็นสาเหตุสำคัญให้เกิดวิกฤติการบินไทยในขณะนี้

ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายล้มละลาย ส่วนหนึ่งคือการบังคับให้เจ้าหนี้เปลี่ยนหนี้เป็นทุน ดังนั้นเจ้าหนี้จะต้องมีตัวแทนเข้ามาพิจารณา เปรียบได้กับมีเอกชนเข้ามาบริหารแผน 

ต้องจับตาว่าแผนฟื้นฟูที่จะเสนอ ครม.สัปดาห์หน้า จะเป็นการอุดหนุนในรูปแบบการค้ำประกันหนี้ ที่อาจต่อลมหายใจได้ไม่นาน หรือจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายล้มละลาย ที่อาจต้องยอมทุ่มเงินเป็นแสนล้าน เพื่อหวังให้สายการบินแห่งชาติกลับมามาผงาดอีกครั้ง . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ